ตัวประกอบของ 10802 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 10802
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 10802 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 10802 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 10802 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 10802 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 10802 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 11, 22, 491, 982, 5401, 10802
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
10802 ÷ 1 | = | 10802 | เหลือเศษ 0 |
10802 ÷ 2 | = | 5401 | เหลือเศษ 0 |
10802 ÷ 11 | = | 982 | เหลือเศษ 0 |
10802 ÷ 22 | = | 491 | เหลือเศษ 0 |
10802 ÷ 491 | = | 22 | เหลือเศษ 0 |
10802 ÷ 982 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
10802 ÷ 5401 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
10802 ÷ 10802 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 10802
1 x 10802 | = | 10802 |
2 x 5401 | = | 10802 |
11 x 982 | = | 10802 |
22 x 491 | = | 10802 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 10802
1 + 2 + 11 + 22 + 491 + 982 + 5401 + 10802 = 17712
▶ ตัวประกอบของ 10802 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 11, 491
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 10802 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10802 = 2 x 11 x 491
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 10802 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 10802 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 10802 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5401
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10802
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10802 แบบที่หนึ่ง
- 10802
- 22
- 2
- 11
- 491
- 22
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10802 แบบที่สอง
- 10802
- 2
- 5401
- 11
- 491
ดังนั้น 10802 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10802 =
2 x 11 x 491
2. การแยกตัวประกอบของ 10802 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 10802 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10802 นั้นก็คือ 2, 11, 491 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10802
2)1080211)5401491)4911ดังนั้น 10802 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้10802 = 2 x 11 x 491วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 10802
1แยกตัวประกอบของ 10802 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 111 x 49112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 491 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10802 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 10802 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10802 นั้นก็คือ 2, 11, 491 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10802
2
)10802
11
)5401
491
)491
1
ดังนั้น 10802 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10802 = 2 x 11 x 491
1แยกตัวประกอบของ 10802 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 111 x 4911
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 491 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10802 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 10802 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇