โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 10280 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 10280

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 10280 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 10280 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 8, 10, 20, 40, 257, 514, 1028, 1285, 2056, 2570, 5140, 10280
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
10280 ÷ 1=10280เหลือเศษ 0
10280 ÷ 2=5140เหลือเศษ 0
10280 ÷ 4=2570เหลือเศษ 0
10280 ÷ 5=2056เหลือเศษ 0
10280 ÷ 8=1285เหลือเศษ 0
10280 ÷ 10=1028เหลือเศษ 0
10280 ÷ 20=514เหลือเศษ 0
10280 ÷ 40=257เหลือเศษ 0
10280 ÷ 257=40เหลือเศษ 0
10280 ÷ 514=20เหลือเศษ 0
10280 ÷ 1028=10เหลือเศษ 0
10280 ÷ 1285=8เหลือเศษ 0
10280 ÷ 2056=5เหลือเศษ 0
10280 ÷ 2570=4เหลือเศษ 0
10280 ÷ 5140=2เหลือเศษ 0
10280 ÷ 10280=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 10280
1 x 10280
2 x 5140
4 x 2570
5 x 2056
8 x 1285
10 x 1028
20 x 514
40 x 257
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 10280
1 + 2 + 4 + 5 + 8 + 10 + 20 + 40 + 257 + 514 + 1028 + 1285 + 2056 + 2570 + 5140 + 10280 = 23220
ตัวประกอบของ 10280 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 257
การแยกตัวประกอบคืออะไร

10280 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

10280 = 2 x 2 x 2 x 5 x 257
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 10280 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
10280 = 23 x 5 x 257
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 10280 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 10280 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 10280 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5140
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10280
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10280 แบบที่หนึ่ง
  • 10280
    • 40
      • 5
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 257

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10280 แบบที่สอง
  • 10280
    • 2
    • 5140
      • 2
      • 2570
        • 2
        • 1285
          • 5
          • 257
ดังนั้น 10280 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10280 = 2 x 2 x 2 x 5 x 257
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
10280 = 23 x 5 x 257 หรือ 23 x 51 x 2571

2. การแยกตัวประกอบของ 10280 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 10280 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10280 นั้นก็คือ 2, 5, 257 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10280

2
)10280
2
)5140
2
)2570
5
)1285
257
)257
1
ดังนั้น 10280 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10280 = 2 x 2 x 2 x 5 x 257
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
10280 = 23 x 5 x 257 หรือ 23 x 51 x 2571

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 10280

1แยกตัวประกอบของ 10280 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 51 x 2571
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 257 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10280 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 10280 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇