ตัวประกอบของ 96810 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 96810
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 96810 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 96810 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 96810 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 96810 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 96810 มีทั้งหมด 32 ตัวคือ 1, 2, 3, 5, 6, 7, 10, 14, 15, 21, 30, 35, 42, 70, 105, 210, 461, 922, 1383, 2305, 2766, 3227, 4610, 6454, 6915, 9681, 13830, 16135, 19362, 32270, 48405, 96810
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 96810 ÷ 1 | = | 96810 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 2 | = | 48405 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 3 | = | 32270 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 5 | = | 19362 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 6 | = | 16135 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 7 | = | 13830 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 10 | = | 9681 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 14 | = | 6915 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 15 | = | 6454 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 21 | = | 4610 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 30 | = | 3227 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 35 | = | 2766 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 42 | = | 2305 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 70 | = | 1383 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 105 | = | 922 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 210 | = | 461 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 461 | = | 210 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 922 | = | 105 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 1383 | = | 70 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 2305 | = | 42 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 2766 | = | 35 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 3227 | = | 30 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 4610 | = | 21 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 6454 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 6915 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 9681 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 13830 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 16135 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 19362 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 32270 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 48405 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 96810 ÷ 96810 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 96810
| 1 x 96810 | = | 96810 |
| 2 x 48405 | = | 96810 |
| 3 x 32270 | = | 96810 |
| 5 x 19362 | = | 96810 |
| 6 x 16135 | = | 96810 |
| 7 x 13830 | = | 96810 |
| 10 x 9681 | = | 96810 |
| 14 x 6915 | = | 96810 |
| 15 x 6454 | = | 96810 |
| 21 x 4610 | = | 96810 |
| 30 x 3227 | = | 96810 |
| 35 x 2766 | = | 96810 |
| 42 x 2305 | = | 96810 |
| 70 x 1383 | = | 96810 |
| 105 x 922 | = | 96810 |
| 210 x 461 | = | 96810 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 96810
1 + 2 + 3 + 5 + 6 + 7 + 10 + 14 + 15 + 21 + 30 + 35 + 42 + 70 + 105 + 210 + 461 + 922 + 1383 + 2305 + 2766 + 3227 + 4610 + 6454 + 6915 + 9681 + 13830 + 16135 + 19362 + 32270 + 48405 + 96810 = 266112
▶ ตัวประกอบของ 96810 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 5 ตัวดังนี้
2, 3, 5, 7, 461
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 96810 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
96810 = 2 x 3 x 5 x 7 x 461
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 96810 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 96810 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 96810 มา 1 คู่ เช่น 2 x 48405
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 96810
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 96810 แบบที่หนึ่ง
- 96810
- 210
- 14
- 2
- 7
- 15
- 3
- 5
- 14
- 461
- 210
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 96810 แบบที่สอง
- 96810
- 2
- 48405
- 3
- 16135
- 5
- 3227
- 7
- 461
ดังนั้น 96810 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
96810 =
2 x 3 x 5 x 7 x 461
2. การแยกตัวประกอบของ 96810 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 96810 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 96810 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 7, 461 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 96810
2)968103)484055)161357)3227461)4611ดังนั้น 96810 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้96810 = 2 x 3 x 5 x 7 x 461วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 96810
1แยกตัวประกอบของ 96810 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 51 x 71 x 46112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 461 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 x 2 = 32✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 96810 มีทั้งหมด 32 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 96810 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 96810 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 7, 461 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 96810
2
)96810
3
)48405
5
)16135
7
)3227
461
)461
1
ดังนั้น 96810 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
96810 = 2 x 3 x 5 x 7 x 461
1แยกตัวประกอบของ 96810 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 51 x 71 x 4611
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 461 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 x 2 = 32✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 96810 มีทั้งหมด 32 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 96810 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
