ตัวประกอบของ 95647 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 95647
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 95647 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 95647 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 95647 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 95647 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 95647 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 101, 947, 95647
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 95647 ÷ 1 | = | 95647 | เหลือเศษ 0 |
| 95647 ÷ 101 | = | 947 | เหลือเศษ 0 |
| 95647 ÷ 947 | = | 101 | เหลือเศษ 0 |
| 95647 ÷ 95647 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 95647
| 1 x 95647 | = | 95647 |
| 101 x 947 | = | 95647 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 95647
1 + 101 + 947 + 95647 = 96696
▶ ตัวประกอบของ 95647 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
101, 947
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 95647 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95647 = 101 x 947
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 95647 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 95647 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 95647 มา 1 คู่ เช่น 101 x 947
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95647
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 95647
- 95647
- 101
- 947
ดังนั้น 95647 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95647 =
101 x 947
2. การแยกตัวประกอบของ 95647 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 95647 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 95647 นั้นก็คือ 101, 947 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95647
101)95647947)9471ดังนั้น 95647 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้95647 = 101 x 947วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 95647
1แยกตัวประกอบของ 95647 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 1011 x 94712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 101 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 947 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 95647 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 95647 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 95647 นั้นก็คือ 101, 947 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95647
101
)95647
947
)947
1
ดังนั้น 95647 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95647 = 101 x 947
1แยกตัวประกอบของ 95647 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 1011 x 9471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 101 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 947 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 95647 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 95647 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
