ตัวประกอบของ 95347 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 95347
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 95347 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 95347 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 95347 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 95347 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 95347 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 7, 53, 257, 371, 1799, 13621, 95347
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 95347 ÷ 1 | = | 95347 | เหลือเศษ 0 |
| 95347 ÷ 7 | = | 13621 | เหลือเศษ 0 |
| 95347 ÷ 53 | = | 1799 | เหลือเศษ 0 |
| 95347 ÷ 257 | = | 371 | เหลือเศษ 0 |
| 95347 ÷ 371 | = | 257 | เหลือเศษ 0 |
| 95347 ÷ 1799 | = | 53 | เหลือเศษ 0 |
| 95347 ÷ 13621 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 95347 ÷ 95347 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 95347
| 1 x 95347 | = | 95347 |
| 7 x 13621 | = | 95347 |
| 53 x 1799 | = | 95347 |
| 257 x 371 | = | 95347 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 95347
1 + 7 + 53 + 257 + 371 + 1799 + 13621 + 95347 = 111456
▶ ตัวประกอบของ 95347 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
7, 53, 257
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 95347 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95347 = 7 x 53 x 257
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 95347 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 95347 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 95347 มา 1 คู่ เช่น 7 x 13621
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95347
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 95347 แบบที่หนึ่ง
- 95347
- 257
- 371
- 7
- 53
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 95347 แบบที่สอง
- 95347
- 7
- 13621
- 53
- 257
ดังนั้น 95347 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95347 =
7 x 53 x 257
2. การแยกตัวประกอบของ 95347 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 95347 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 95347 นั้นก็คือ 7, 53, 257 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95347
7)9534753)13621257)2571ดังนั้น 95347 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้95347 = 7 x 53 x 257วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 95347
1แยกตัวประกอบของ 95347 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 531 x 25712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 257 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 95347 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 95347 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 95347 นั้นก็คือ 7, 53, 257 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95347
7
)95347
53
)13621
257
)257
1
ดังนั้น 95347 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95347 = 7 x 53 x 257
1แยกตัวประกอบของ 95347 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 531 x 2571
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 257 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 95347 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 95347 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
