ตัวประกอบของ 95167 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 95167
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 95167 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 95167 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 95167 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 95167 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 95167 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 59, 1613, 95167
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 95167 ÷ 1 | = | 95167 | เหลือเศษ 0 |
| 95167 ÷ 59 | = | 1613 | เหลือเศษ 0 |
| 95167 ÷ 1613 | = | 59 | เหลือเศษ 0 |
| 95167 ÷ 95167 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 95167
| 1 x 95167 | = | 95167 |
| 59 x 1613 | = | 95167 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 95167
1 + 59 + 1613 + 95167 = 96840
▶ ตัวประกอบของ 95167 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
59, 1613
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 95167 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95167 = 59 x 1613
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 95167 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 95167 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 95167 มา 1 คู่ เช่น 59 x 1613
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95167
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 95167
- 95167
- 59
- 1613
ดังนั้น 95167 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95167 =
59 x 1613
2. การแยกตัวประกอบของ 95167 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 95167 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 95167 นั้นก็คือ 59, 1613 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95167
59)951671613)16131ดังนั้น 95167 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้95167 = 59 x 1613วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 95167
1แยกตัวประกอบของ 95167 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 591 x 161312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 59 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1613 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 95167 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 95167 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 95167 นั้นก็คือ 59, 1613 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95167
59
)95167
1613
)1613
1
ดังนั้น 95167 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95167 = 59 x 1613
1แยกตัวประกอบของ 95167 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 591 x 16131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 59 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1613 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 95167 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 95167 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇