ตัวประกอบของ 9226 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 9226
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 9226 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 9226 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 9226 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 9226 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 9226 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 659, 1318, 4613, 9226
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
9226 ÷ 1 | = | 9226 | เหลือเศษ 0 |
9226 ÷ 2 | = | 4613 | เหลือเศษ 0 |
9226 ÷ 7 | = | 1318 | เหลือเศษ 0 |
9226 ÷ 14 | = | 659 | เหลือเศษ 0 |
9226 ÷ 659 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
9226 ÷ 1318 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
9226 ÷ 4613 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
9226 ÷ 9226 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 9226
1 x 9226 | = | 9226 |
2 x 4613 | = | 9226 |
7 x 1318 | = | 9226 |
14 x 659 | = | 9226 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 9226
1 + 2 + 7 + 14 + 659 + 1318 + 4613 + 9226 = 15840
▶ ตัวประกอบของ 9226 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 659
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 9226 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9226 = 2 x 7 x 659
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 9226 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 9226 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 9226 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4613
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9226
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9226 แบบที่หนึ่ง
- 9226
- 14
- 2
- 7
- 659
- 14
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9226 แบบที่สอง
- 9226
- 2
- 4613
- 7
- 659
ดังนั้น 9226 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9226 =
2 x 7 x 659
2. การแยกตัวประกอบของ 9226 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 9226 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9226 นั้นก็คือ 2, 7, 659 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9226
2)92267)4613659)6591ดังนั้น 9226 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้9226 = 2 x 7 x 659วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 9226
1แยกตัวประกอบของ 9226 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 65912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 659 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9226 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 9226 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9226 นั้นก็คือ 2, 7, 659 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9226
2
)9226
7
)4613
659
)659
1
ดังนั้น 9226 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9226 = 2 x 7 x 659
1แยกตัวประกอบของ 9226 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 6591
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 659 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9226 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 9226 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇