ตัวประกอบของ 8702 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8702
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8702 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8702 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8702 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8702 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8702 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 19, 38, 229, 458, 4351, 8702
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8702 ÷ 1 | = | 8702 | เหลือเศษ 0 |
8702 ÷ 2 | = | 4351 | เหลือเศษ 0 |
8702 ÷ 19 | = | 458 | เหลือเศษ 0 |
8702 ÷ 38 | = | 229 | เหลือเศษ 0 |
8702 ÷ 229 | = | 38 | เหลือเศษ 0 |
8702 ÷ 458 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
8702 ÷ 4351 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
8702 ÷ 8702 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8702
1 x 8702 | = | 8702 |
2 x 4351 | = | 8702 |
19 x 458 | = | 8702 |
38 x 229 | = | 8702 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8702
1 + 2 + 19 + 38 + 229 + 458 + 4351 + 8702 = 13800
▶ ตัวประกอบของ 8702 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 19, 229
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8702 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8702 = 2 x 19 x 229
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8702 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8702 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8702 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4351
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8702
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8702 แบบที่หนึ่ง
- 8702
- 38
- 2
- 19
- 229
- 38
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8702 แบบที่สอง
- 8702
- 2
- 4351
- 19
- 229
ดังนั้น 8702 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8702 =
2 x 19 x 229
2. การแยกตัวประกอบของ 8702 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8702 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8702 นั้นก็คือ 2, 19, 229 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8702
2)870219)4351229)2291ดังนั้น 8702 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8702 = 2 x 19 x 229วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8702
1แยกตัวประกอบของ 8702 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 191 x 22912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 229 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8702 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8702 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8702 นั้นก็คือ 2, 19, 229 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8702
2
)8702
19
)4351
229
)229
1
ดังนั้น 8702 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8702 = 2 x 19 x 229
1แยกตัวประกอบของ 8702 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 191 x 2291
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 229 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8702 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8702 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇