ตัวประกอบของ 7202 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 7202
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 7202 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 7202 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 7202 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 7202 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 7202 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 13, 26, 277, 554, 3601, 7202
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
7202 ÷ 1 | = | 7202 | เหลือเศษ 0 |
7202 ÷ 2 | = | 3601 | เหลือเศษ 0 |
7202 ÷ 13 | = | 554 | เหลือเศษ 0 |
7202 ÷ 26 | = | 277 | เหลือเศษ 0 |
7202 ÷ 277 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
7202 ÷ 554 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
7202 ÷ 3601 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
7202 ÷ 7202 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 7202
1 x 7202 | = | 7202 |
2 x 3601 | = | 7202 |
13 x 554 | = | 7202 |
26 x 277 | = | 7202 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 7202
1 + 2 + 13 + 26 + 277 + 554 + 3601 + 7202 = 11676
▶ ตัวประกอบของ 7202 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 277
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 7202 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
7202 = 2 x 13 x 277
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 7202 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 7202 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 7202 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3601
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 7202
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 7202 แบบที่หนึ่ง
- 7202
- 26
- 2
- 13
- 277
- 26
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 7202 แบบที่สอง
- 7202
- 2
- 3601
- 13
- 277
ดังนั้น 7202 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
7202 =
2 x 13 x 277
2. การแยกตัวประกอบของ 7202 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 7202 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 7202 นั้นก็คือ 2, 13, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 7202
2)720213)3601277)2771ดังนั้น 7202 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้7202 = 2 x 13 x 277วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 7202
1แยกตัวประกอบของ 7202 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 27712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 7202 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 7202 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 7202 นั้นก็คือ 2, 13, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 7202
2
)7202
13
)3601
277
)277
1
ดังนั้น 7202 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
7202 = 2 x 13 x 277
1แยกตัวประกอบของ 7202 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 2771
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 7202 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 7202 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇