โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 68632 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68632

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 68632 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 68632 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 23, 46, 92, 184, 373, 746, 1492, 2984, 8579, 17158, 34316, 68632
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68632 ÷ 1=68632เหลือเศษ 0
68632 ÷ 2=34316เหลือเศษ 0
68632 ÷ 4=17158เหลือเศษ 0
68632 ÷ 8=8579เหลือเศษ 0
68632 ÷ 23=2984เหลือเศษ 0
68632 ÷ 46=1492เหลือเศษ 0
68632 ÷ 92=746เหลือเศษ 0
68632 ÷ 184=373เหลือเศษ 0
68632 ÷ 373=184เหลือเศษ 0
68632 ÷ 746=92เหลือเศษ 0
68632 ÷ 1492=46เหลือเศษ 0
68632 ÷ 2984=23เหลือเศษ 0
68632 ÷ 8579=8เหลือเศษ 0
68632 ÷ 17158=4เหลือเศษ 0
68632 ÷ 34316=2เหลือเศษ 0
68632 ÷ 68632=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68632
1 x 68632
2 x 34316
4 x 17158
8 x 8579
23 x 2984
46 x 1492
92 x 746
184 x 373
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68632
1 + 2 + 4 + 8 + 23 + 46 + 92 + 184 + 373 + 746 + 1492 + 2984 + 8579 + 17158 + 34316 + 68632 = 134640
ตัวประกอบของ 68632 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 23, 373
การแยกตัวประกอบคืออะไร

68632 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

68632 = 2 x 2 x 2 x 23 x 373
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68632 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68632 = 23 x 23 x 373
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 68632 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68632 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68632 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34316
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68632
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68632 แบบที่หนึ่ง
  • 68632
    • 184
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 23
    • 373

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68632 แบบที่สอง
  • 68632
    • 2
    • 34316
      • 2
      • 17158
        • 2
        • 8579
          • 23
          • 373
ดังนั้น 68632 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68632 = 2 x 2 x 2 x 23 x 373
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68632 = 23 x 23 x 373 หรือ 23 x 231 x 3731

2. การแยกตัวประกอบของ 68632 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 68632 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68632 นั้นก็คือ 2, 23, 373 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68632

2
)68632
2
)34316
2
)17158
23
)8579
373
)373
1
ดังนั้น 68632 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68632 = 2 x 2 x 2 x 23 x 373
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68632 = 23 x 23 x 373 หรือ 23 x 231 x 3731

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68632

1แยกตัวประกอบของ 68632 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 231 x 3731
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 373 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68632 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68632 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇