ตัวประกอบของ 68327 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68327
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68327 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68327 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 68327 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68327 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68327 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 7, 43, 227, 301, 1589, 9761, 68327
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68327 ÷ 1 | = | 68327 | เหลือเศษ 0 |
68327 ÷ 7 | = | 9761 | เหลือเศษ 0 |
68327 ÷ 43 | = | 1589 | เหลือเศษ 0 |
68327 ÷ 227 | = | 301 | เหลือเศษ 0 |
68327 ÷ 301 | = | 227 | เหลือเศษ 0 |
68327 ÷ 1589 | = | 43 | เหลือเศษ 0 |
68327 ÷ 9761 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
68327 ÷ 68327 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68327
1 x 68327 | = | 68327 |
7 x 9761 | = | 68327 |
43 x 1589 | = | 68327 |
227 x 301 | = | 68327 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68327
1 + 7 + 43 + 227 + 301 + 1589 + 9761 + 68327 = 80256
▶ ตัวประกอบของ 68327 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
7, 43, 227
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68327 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68327 = 7 x 43 x 227
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68327 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68327 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68327 มา 1 คู่ เช่น 7 x 9761
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68327
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68327 แบบที่หนึ่ง
- 68327
- 227
- 301
- 7
- 43
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68327 แบบที่สอง
- 68327
- 7
- 9761
- 43
- 227
ดังนั้น 68327 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68327 =
7 x 43 x 227
2. การแยกตัวประกอบของ 68327 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68327 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68327 นั้นก็คือ 7, 43, 227 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68327
7)6832743)9761227)2271ดังนั้น 68327 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68327 = 7 x 43 x 227วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68327
1แยกตัวประกอบของ 68327 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 431 x 22712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 227 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68327 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68327 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68327 นั้นก็คือ 7, 43, 227 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68327
7
)68327
43
)9761
227
)227
1
ดังนั้น 68327 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68327 = 7 x 43 x 227
1แยกตัวประกอบของ 68327 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 431 x 2271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 227 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68327 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68327 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇