ตัวประกอบของ 68102 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68102
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68102 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68102 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 68102 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68102 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68102 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 17, 34, 2003, 4006, 34051, 68102
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68102 ÷ 1 | = | 68102 | เหลือเศษ 0 |
68102 ÷ 2 | = | 34051 | เหลือเศษ 0 |
68102 ÷ 17 | = | 4006 | เหลือเศษ 0 |
68102 ÷ 34 | = | 2003 | เหลือเศษ 0 |
68102 ÷ 2003 | = | 34 | เหลือเศษ 0 |
68102 ÷ 4006 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
68102 ÷ 34051 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
68102 ÷ 68102 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68102
1 x 68102 | = | 68102 |
2 x 34051 | = | 68102 |
17 x 4006 | = | 68102 |
34 x 2003 | = | 68102 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68102
1 + 2 + 17 + 34 + 2003 + 4006 + 34051 + 68102 = 108216
▶ ตัวประกอบของ 68102 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 17, 2003
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68102 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68102 = 2 x 17 x 2003
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68102 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68102 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68102 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34051
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68102
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68102 แบบที่หนึ่ง
- 68102
- 34
- 2
- 17
- 2003
- 34
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68102 แบบที่สอง
- 68102
- 2
- 34051
- 17
- 2003
ดังนั้น 68102 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68102 =
2 x 17 x 2003
2. การแยกตัวประกอบของ 68102 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68102 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68102 นั้นก็คือ 2, 17, 2003 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68102
2)6810217)340512003)20031ดังนั้น 68102 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68102 = 2 x 17 x 2003วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68102
1แยกตัวประกอบของ 68102 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 171 x 200312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2003 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68102 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68102 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68102 นั้นก็คือ 2, 17, 2003 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68102
2
)68102
17
)34051
2003
)2003
1
ดังนั้น 68102 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68102 = 2 x 17 x 2003
1แยกตัวประกอบของ 68102 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 171 x 20031
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2003 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68102 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68102 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇