ตัวประกอบของ 668 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 668
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 668 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 668 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 668 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 668 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 668 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 2, 4, 167, 334, 668
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
668 ÷ 1 | = | 668 | เหลือเศษ 0 |
668 ÷ 2 | = | 334 | เหลือเศษ 0 |
668 ÷ 4 | = | 167 | เหลือเศษ 0 |
668 ÷ 167 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
668 ÷ 334 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
668 ÷ 668 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 668
1 x 668 | = | 668 |
2 x 334 | = | 668 |
4 x 167 | = | 668 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 668
1 + 2 + 4 + 167 + 334 + 668 = 1176
▶ ตัวประกอบของ 668 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 167
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 668 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
668 = 2 x 2 x 167
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 668 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
668 = 22 x 167
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 668 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
668 = 22 x 167
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 668 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 668 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 668 มา 1 คู่ เช่น 2 x 334
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 668
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 668 แบบที่หนึ่ง
- 668
- 4
- 2
- 2
- 167
- 4
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 668 แบบที่สอง
- 668
- 2
- 334
- 2
- 167
ดังนั้น 668 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
668 =
2 x 2 x 167
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
668 =
22 x 167 หรือ 22 x 1671
2. การแยกตัวประกอบของ 668 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 668 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 668 นั้นก็คือ 2, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 668
2)6682)334167)1671ดังนั้น 668 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้668 = 2 x 2 x 167หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง668 = 22 x 167 หรือ 22 x 1671วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 668
1แยกตัวประกอบของ 668 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 16712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 668 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 668 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 668 นั้นก็คือ 2, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 668
2
)668
2
)334
167
)167
1
ดังนั้น 668 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
668 = 2 x 2 x 167
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
668 = 22 x 167 หรือ 22 x 1671
1แยกตัวประกอบของ 668 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 1671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 668 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 668 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇