ตัวประกอบของ 65808 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65808
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65808 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65808 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65808 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65808 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65808 มีทั้งหมด 30 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 9, 12, 16, 18, 24, 36, 48, 72, 144, 457, 914, 1371, 1828, 2742, 3656, 4113, 5484, 7312, 8226, 10968, 16452, 21936, 32904, 65808
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65808 ÷ 1 | = | 65808 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 2 | = | 32904 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 3 | = | 21936 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 4 | = | 16452 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 6 | = | 10968 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 8 | = | 8226 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 9 | = | 7312 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 12 | = | 5484 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 16 | = | 4113 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 18 | = | 3656 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 24 | = | 2742 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 36 | = | 1828 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 48 | = | 1371 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 72 | = | 914 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 144 | = | 457 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 457 | = | 144 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 914 | = | 72 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 1371 | = | 48 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 1828 | = | 36 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 2742 | = | 24 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 3656 | = | 18 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 4113 | = | 16 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 5484 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 7312 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 8226 | = | 8 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 10968 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 16452 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 21936 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 32904 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65808 ÷ 65808 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65808
1 x 65808 | = | 65808 |
2 x 32904 | = | 65808 |
3 x 21936 | = | 65808 |
4 x 16452 | = | 65808 |
6 x 10968 | = | 65808 |
8 x 8226 | = | 65808 |
9 x 7312 | = | 65808 |
12 x 5484 | = | 65808 |
16 x 4113 | = | 65808 |
18 x 3656 | = | 65808 |
24 x 2742 | = | 65808 |
36 x 1828 | = | 65808 |
48 x 1371 | = | 65808 |
72 x 914 | = | 65808 |
144 x 457 | = | 65808 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65808
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 9 + 12 + 16 + 18 + 24 + 36 + 48 + 72 + 144 + 457 + 914 + 1371 + 1828 + 2742 + 3656 + 4113 + 5484 + 7312 + 8226 + 10968 + 16452 + 21936 + 32904 + 65808 = 184574
▶ ตัวประกอบของ 65808 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 457
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65808 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65808 = 2 x 2 x 2 x 2 x 3 x 3 x 457
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65808 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65808 = 24 x 32 x 457
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65808 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65808 = 24 x 32 x 457
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65808 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65808 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65808 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32904
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65808
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65808 แบบที่หนึ่ง
- 65808
- 144
- 12
- 3
- 4
- 2
- 2
- 12
- 3
- 4
- 2
- 2
- 12
- 457
- 144
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65808 แบบที่สอง
- 65808
- 2
- 32904
- 2
- 16452
- 2
- 8226
- 2
- 4113
- 3
- 1371
- 3
- 457
ดังนั้น 65808 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65808 =
2 x 2 x 2 x 2 x 3 x 3 x 457
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65808 =
24 x 32 x 457 หรือ 24 x 32 x 4571
2. การแยกตัวประกอบของ 65808 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65808 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65808 นั้นก็คือ 2, 3, 457 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65808
2)658082)329042)164522)82263)41133)1371457)4571ดังนั้น 65808 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65808 = 2 x 2 x 2 x 2 x 3 x 3 x 457หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง65808 = 24 x 32 x 457 หรือ 24 x 32 x 4571วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65808
1แยกตัวประกอบของ 65808 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 24 x 32 x 45712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 457 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 5 x 3 x 2 = 30✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65808 มีทั้งหมด 30 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65808 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65808 นั้นก็คือ 2, 3, 457 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65808
2
)65808
2
)32904
2
)16452
2
)8226
3
)4113
3
)1371
457
)457
1
ดังนั้น 65808 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65808 = 2 x 2 x 2 x 2 x 3 x 3 x 457
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65808 = 24 x 32 x 457 หรือ 24 x 32 x 4571
1แยกตัวประกอบของ 65808 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 24 x 32 x 4571
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 457 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 5 x 3 x 2 = 30✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65808 มีทั้งหมด 30 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65808 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇