ตัวประกอบของ 6582 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6582
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6582 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6582 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6582 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6582 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6582 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 1097, 2194, 3291, 6582
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 6582 ÷ 1 | = | 6582 | เหลือเศษ 0 |
| 6582 ÷ 2 | = | 3291 | เหลือเศษ 0 |
| 6582 ÷ 3 | = | 2194 | เหลือเศษ 0 |
| 6582 ÷ 6 | = | 1097 | เหลือเศษ 0 |
| 6582 ÷ 1097 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 6582 ÷ 2194 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 6582 ÷ 3291 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 6582 ÷ 6582 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6582
| 1 x 6582 | = | 6582 |
| 2 x 3291 | = | 6582 |
| 3 x 2194 | = | 6582 |
| 6 x 1097 | = | 6582 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6582
1 + 2 + 3 + 6 + 1097 + 2194 + 3291 + 6582 = 13176
▶ ตัวประกอบของ 6582 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 1097
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6582 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6582 = 2 x 3 x 1097
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6582 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6582 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6582 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3291
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6582
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6582 แบบที่หนึ่ง
- 6582
- 6
- 2
- 3
- 1097
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6582 แบบที่สอง
- 6582
- 2
- 3291
- 3
- 1097
ดังนั้น 6582 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6582 =
2 x 3 x 1097
2. การแยกตัวประกอบของ 6582 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6582 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6582 นั้นก็คือ 2, 3, 1097 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6582
2)65823)32911097)10971ดังนั้น 6582 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6582 = 2 x 3 x 1097วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6582
1แยกตัวประกอบของ 6582 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 109712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1097 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6582 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6582 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6582 นั้นก็คือ 2, 3, 1097 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6582
2
)6582
3
)3291
1097
)1097
1
ดังนั้น 6582 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6582 = 2 x 3 x 1097
1แยกตัวประกอบของ 6582 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 10971
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1097 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6582 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6582 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇