ตัวประกอบของ 65635 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65635
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65635 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65635 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 65635 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65635 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65635 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 5, 13127, 65635
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 65635 ÷ 1 | = | 65635 | เหลือเศษ 0 |
| 65635 ÷ 5 | = | 13127 | เหลือเศษ 0 |
| 65635 ÷ 13127 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 65635 ÷ 65635 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65635
| 1 x 65635 | = | 65635 |
| 5 x 13127 | = | 65635 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65635
1 + 5 + 13127 + 65635 = 78768
▶ ตัวประกอบของ 65635 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
5, 13127
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65635 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65635 = 5 x 13127
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65635 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65635 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65635 มา 1 คู่ เช่น 5 x 13127
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65635
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65635
- 65635
- 5
- 13127
ดังนั้น 65635 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65635 =
5 x 13127
2. การแยกตัวประกอบของ 65635 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65635 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65635 นั้นก็คือ 5, 13127 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65635
5)6563513127)131271ดังนั้น 65635 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65635 = 5 x 13127วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65635
1แยกตัวประกอบของ 65635 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 1312712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13127 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65635 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65635 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65635 นั้นก็คือ 5, 13127 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65635
5
)65635
13127
)13127
1
ดังนั้น 65635 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65635 = 5 x 13127
1แยกตัวประกอบของ 65635 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 131271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13127 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65635 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65635 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇