ตัวประกอบของ 65202 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65202
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65202 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65202 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65202 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65202 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65202 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 10867, 21734, 32601, 65202
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65202 ÷ 1 | = | 65202 | เหลือเศษ 0 |
65202 ÷ 2 | = | 32601 | เหลือเศษ 0 |
65202 ÷ 3 | = | 21734 | เหลือเศษ 0 |
65202 ÷ 6 | = | 10867 | เหลือเศษ 0 |
65202 ÷ 10867 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
65202 ÷ 21734 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
65202 ÷ 32601 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65202 ÷ 65202 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65202
1 x 65202 | = | 65202 |
2 x 32601 | = | 65202 |
3 x 21734 | = | 65202 |
6 x 10867 | = | 65202 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65202
1 + 2 + 3 + 6 + 10867 + 21734 + 32601 + 65202 = 130416
▶ ตัวประกอบของ 65202 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 10867
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65202 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65202 = 2 x 3 x 10867
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65202 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65202 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65202 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32601
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65202
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65202 แบบที่หนึ่ง
- 65202
- 6
- 2
- 3
- 10867
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65202 แบบที่สอง
- 65202
- 2
- 32601
- 3
- 10867
ดังนั้น 65202 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65202 =
2 x 3 x 10867
2. การแยกตัวประกอบของ 65202 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65202 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65202 นั้นก็คือ 2, 3, 10867 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65202
2)652023)3260110867)108671ดังนั้น 65202 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65202 = 2 x 3 x 10867วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65202
1แยกตัวประกอบของ 65202 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 1086712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 10867 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65202 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65202 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65202 นั้นก็คือ 2, 3, 10867 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65202
2
)65202
3
)32601
10867
)10867
1
ดังนั้น 65202 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65202 = 2 x 3 x 10867
1แยกตัวประกอบของ 65202 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 108671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 10867 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65202 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65202 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇