โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 6456 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6456

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 6456 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 6456 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 24, 269, 538, 807, 1076, 1614, 2152, 3228, 6456
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6456 ÷ 1=6456เหลือเศษ 0
6456 ÷ 2=3228เหลือเศษ 0
6456 ÷ 3=2152เหลือเศษ 0
6456 ÷ 4=1614เหลือเศษ 0
6456 ÷ 6=1076เหลือเศษ 0
6456 ÷ 8=807เหลือเศษ 0
6456 ÷ 12=538เหลือเศษ 0
6456 ÷ 24=269เหลือเศษ 0
6456 ÷ 269=24เหลือเศษ 0
6456 ÷ 538=12เหลือเศษ 0
6456 ÷ 807=8เหลือเศษ 0
6456 ÷ 1076=6เหลือเศษ 0
6456 ÷ 1614=4เหลือเศษ 0
6456 ÷ 2152=3เหลือเศษ 0
6456 ÷ 3228=2เหลือเศษ 0
6456 ÷ 6456=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6456
1 x 6456
2 x 3228
3 x 2152
4 x 1614
6 x 1076
8 x 807
12 x 538
24 x 269
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6456
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 12 + 24 + 269 + 538 + 807 + 1076 + 1614 + 2152 + 3228 + 6456 = 16200
ตัวประกอบของ 6456 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 269
การแยกตัวประกอบคืออะไร

6456 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

6456 = 2 x 2 x 2 x 3 x 269
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 6456 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
6456 = 23 x 3 x 269
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 6456 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6456 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6456 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3228
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6456
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6456 แบบที่หนึ่ง
  • 6456
    • 24
      • 4
        • 2
        • 2
      • 6
        • 2
        • 3
    • 269

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6456 แบบที่สอง
  • 6456
    • 2
    • 3228
      • 2
      • 1614
        • 2
        • 807
          • 3
          • 269
ดังนั้น 6456 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6456 = 2 x 2 x 2 x 3 x 269
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6456 = 23 x 3 x 269 หรือ 23 x 31 x 2691

2. การแยกตัวประกอบของ 6456 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 6456 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6456 นั้นก็คือ 2, 3, 269 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6456

2
)6456
2
)3228
2
)1614
3
)807
269
)269
1
ดังนั้น 6456 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6456 = 2 x 2 x 2 x 3 x 269
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6456 = 23 x 3 x 269 หรือ 23 x 31 x 2691

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6456

1แยกตัวประกอบของ 6456 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 2691
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 269 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6456 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6456 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇