ตัวประกอบของ 6430 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6430
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6430 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6430 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6430 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6430 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6430 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 643, 1286, 3215, 6430
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6430 ÷ 1 | = | 6430 | เหลือเศษ 0 |
6430 ÷ 2 | = | 3215 | เหลือเศษ 0 |
6430 ÷ 5 | = | 1286 | เหลือเศษ 0 |
6430 ÷ 10 | = | 643 | เหลือเศษ 0 |
6430 ÷ 643 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
6430 ÷ 1286 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
6430 ÷ 3215 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
6430 ÷ 6430 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6430
1 x 6430 | = | 6430 |
2 x 3215 | = | 6430 |
5 x 1286 | = | 6430 |
10 x 643 | = | 6430 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6430
1 + 2 + 5 + 10 + 643 + 1286 + 3215 + 6430 = 11592
▶ ตัวประกอบของ 6430 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 643
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6430 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6430 = 2 x 5 x 643
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6430 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6430 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6430 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3215
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6430
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6430 แบบที่หนึ่ง
- 6430
- 10
- 2
- 5
- 643
- 10
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6430 แบบที่สอง
- 6430
- 2
- 3215
- 5
- 643
ดังนั้น 6430 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6430 =
2 x 5 x 643
2. การแยกตัวประกอบของ 6430 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6430 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6430 นั้นก็คือ 2, 5, 643 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6430
2)64305)3215643)6431ดังนั้น 6430 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6430 = 2 x 5 x 643วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6430
1แยกตัวประกอบของ 6430 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 64312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 643 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6430 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6430 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6430 นั้นก็คือ 2, 5, 643 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6430
2
)6430
5
)3215
643
)643
1
ดังนั้น 6430 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6430 = 2 x 5 x 643
1แยกตัวประกอบของ 6430 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 6431
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 643 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6430 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6430 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇