ตัวประกอบของ 637 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 637
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 637 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 637 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 637 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 637 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 637 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 7, 13, 49, 91, 637
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
637 ÷ 1 | = | 637 | เหลือเศษ 0 |
637 ÷ 7 | = | 91 | เหลือเศษ 0 |
637 ÷ 13 | = | 49 | เหลือเศษ 0 |
637 ÷ 49 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
637 ÷ 91 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
637 ÷ 637 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 637
1 x 637 | = | 637 |
7 x 91 | = | 637 |
13 x 49 | = | 637 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 637
1 + 7 + 13 + 49 + 91 + 637 = 798
▶ ตัวประกอบของ 637 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
7, 13
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 637 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
637 = 7 x 7 x 13
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 637 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
637 = 72 x 13
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 637 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
637 = 72 x 13
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 637 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 637 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 637 มา 1 คู่ เช่น 7 x 91
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 637
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 637 แบบที่หนึ่ง
- 637
- 13
- 49
- 7
- 7
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 637 แบบที่สอง
- 637
- 7
- 91
- 7
- 13
ดังนั้น 637 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
637 =
7 x 7 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
637 =
72 x 13 หรือ 72 x 131
2. การแยกตัวประกอบของ 637 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 637 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 637 นั้นก็คือ 7, 13 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 637
7)6377)9113)131ดังนั้น 637 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้637 = 7 x 7 x 13หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง637 = 72 x 13 หรือ 72 x 131วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 637
1แยกตัวประกอบของ 637 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 72 x 1312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 637 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 637 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 637 นั้นก็คือ 7, 13 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 637
7
)637
7
)91
13
)13
1
ดังนั้น 637 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
637 = 7 x 7 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
637 = 72 x 13 หรือ 72 x 131
1แยกตัวประกอบของ 637 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 72 x 131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 637 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 637 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇