โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5535 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5535

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5535 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5535 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 3, 5, 9, 15, 27, 41, 45, 123, 135, 205, 369, 615, 1107, 1845, 5535
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5535 ÷ 1=5535เหลือเศษ 0
5535 ÷ 3=1845เหลือเศษ 0
5535 ÷ 5=1107เหลือเศษ 0
5535 ÷ 9=615เหลือเศษ 0
5535 ÷ 15=369เหลือเศษ 0
5535 ÷ 27=205เหลือเศษ 0
5535 ÷ 41=135เหลือเศษ 0
5535 ÷ 45=123เหลือเศษ 0
5535 ÷ 123=45เหลือเศษ 0
5535 ÷ 135=41เหลือเศษ 0
5535 ÷ 205=27เหลือเศษ 0
5535 ÷ 369=15เหลือเศษ 0
5535 ÷ 615=9เหลือเศษ 0
5535 ÷ 1107=5เหลือเศษ 0
5535 ÷ 1845=3เหลือเศษ 0
5535 ÷ 5535=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5535
1 x 5535
3 x 1845
5 x 1107
9 x 615
15 x 369
27 x 205
41 x 135
45 x 123
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5535
1 + 3 + 5 + 9 + 15 + 27 + 41 + 45 + 123 + 135 + 205 + 369 + 615 + 1107 + 1845 + 5535 = 10080
ตัวประกอบของ 5535 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 5, 41
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5535 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5535 = 3 x 3 x 3 x 5 x 41
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5535 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5535 = 33 x 5 x 41
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5535 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5535 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5535 มา 1 คู่ เช่น 3 x 1845
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5535
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5535 แบบที่หนึ่ง
  • 5535
    • 45
      • 5
      • 9
        • 3
        • 3
    • 123
      • 3
      • 41

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5535 แบบที่สอง
  • 5535
    • 3
    • 1845
      • 3
      • 615
        • 3
        • 205
          • 5
          • 41
ดังนั้น 5535 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5535 = 3 x 3 x 3 x 5 x 41
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5535 = 33 x 5 x 41 หรือ 33 x 51 x 411

2. การแยกตัวประกอบของ 5535 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5535 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5535 นั้นก็คือ 3, 5, 41 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5535

3
)5535
3
)1845
3
)615
5
)205
41
)41
1
ดังนั้น 5535 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5535 = 3 x 3 x 3 x 5 x 41
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5535 = 33 x 5 x 41 หรือ 33 x 51 x 411

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5535

1แยกตัวประกอบของ 5535 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 33 x 51 x 411
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5535 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5535 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇