ตัวประกอบของ 5532 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5532
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5532 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5532 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5532 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5532 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5532 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 12, 461, 922, 1383, 1844, 2766, 5532
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 5532 ÷ 1 | = | 5532 | เหลือเศษ 0 |
| 5532 ÷ 2 | = | 2766 | เหลือเศษ 0 |
| 5532 ÷ 3 | = | 1844 | เหลือเศษ 0 |
| 5532 ÷ 4 | = | 1383 | เหลือเศษ 0 |
| 5532 ÷ 6 | = | 922 | เหลือเศษ 0 |
| 5532 ÷ 12 | = | 461 | เหลือเศษ 0 |
| 5532 ÷ 461 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
| 5532 ÷ 922 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 5532 ÷ 1383 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 5532 ÷ 1844 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 5532 ÷ 2766 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 5532 ÷ 5532 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5532
| 1 x 5532 | = | 5532 |
| 2 x 2766 | = | 5532 |
| 3 x 1844 | = | 5532 |
| 4 x 1383 | = | 5532 |
| 6 x 922 | = | 5532 |
| 12 x 461 | = | 5532 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5532
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 12 + 461 + 922 + 1383 + 1844 + 2766 + 5532 = 12936
▶ ตัวประกอบของ 5532 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 461
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5532 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5532 = 2 x 2 x 3 x 461
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5532 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5532 = 22 x 3 x 461
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5532 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5532 = 22 x 3 x 461
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5532 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5532 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5532 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2766
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5532
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5532 แบบที่หนึ่ง
- 5532
- 12
- 3
- 4
- 2
- 2
- 461
- 12
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5532 แบบที่สอง
- 5532
- 2
- 2766
- 2
- 1383
- 3
- 461
ดังนั้น 5532 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5532 =
2 x 2 x 3 x 461
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5532 =
22 x 3 x 461 หรือ 22 x 31 x 4611
2. การแยกตัวประกอบของ 5532 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5532 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5532 นั้นก็คือ 2, 3, 461 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5532
2)55322)27663)1383461)4611ดังนั้น 5532 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5532 = 2 x 2 x 3 x 461หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง5532 = 22 x 3 x 461 หรือ 22 x 31 x 4611วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5532
1แยกตัวประกอบของ 5532 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 46112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 461 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5532 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5532 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5532 นั้นก็คือ 2, 3, 461 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5532
2
)5532
2
)2766
3
)1383
461
)461
1
ดังนั้น 5532 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5532 = 2 x 2 x 3 x 461
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5532 = 22 x 3 x 461 หรือ 22 x 31 x 4611
1แยกตัวประกอบของ 5532 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 4611
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 461 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5532 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5532 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇