โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5478 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5478

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5478 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5478 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 11, 22, 33, 66, 83, 166, 249, 498, 913, 1826, 2739, 5478
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5478 ÷ 1=5478เหลือเศษ 0
5478 ÷ 2=2739เหลือเศษ 0
5478 ÷ 3=1826เหลือเศษ 0
5478 ÷ 6=913เหลือเศษ 0
5478 ÷ 11=498เหลือเศษ 0
5478 ÷ 22=249เหลือเศษ 0
5478 ÷ 33=166เหลือเศษ 0
5478 ÷ 66=83เหลือเศษ 0
5478 ÷ 83=66เหลือเศษ 0
5478 ÷ 166=33เหลือเศษ 0
5478 ÷ 249=22เหลือเศษ 0
5478 ÷ 498=11เหลือเศษ 0
5478 ÷ 913=6เหลือเศษ 0
5478 ÷ 1826=3เหลือเศษ 0
5478 ÷ 2739=2เหลือเศษ 0
5478 ÷ 5478=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5478
1 x 5478
2 x 2739
3 x 1826
6 x 913
11 x 498
22 x 249
33 x 166
66 x 83
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5478
1 + 2 + 3 + 6 + 11 + 22 + 33 + 66 + 83 + 166 + 249 + 498 + 913 + 1826 + 2739 + 5478 = 12096
ตัวประกอบของ 5478 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 11, 83
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5478 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5478 = 2 x 3 x 11 x 83
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5478 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5478 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5478 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2739
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5478
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5478 แบบที่หนึ่ง
  • 5478
    • 66
      • 6
        • 2
        • 3
      • 11
    • 83

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5478 แบบที่สอง
  • 5478
    • 2
    • 2739
      • 3
      • 913
        • 11
        • 83
ดังนั้น 5478 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5478 = 2 x 3 x 11 x 83

2. การแยกตัวประกอบของ 5478 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5478 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5478 นั้นก็คือ 2, 3, 11, 83 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5478

2
)5478
3
)2739
11
)913
83
)83
1
ดังนั้น 5478 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5478 = 2 x 3 x 11 x 83

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5478

1แยกตัวประกอบของ 5478 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 111 x 831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 83 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5478 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5478 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇