ตัวประกอบของ 5053 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5053
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5053 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5053 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 5053 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5053 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5053 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 31, 163, 5053
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 5053 ÷ 1 | = | 5053 | เหลือเศษ 0 |
| 5053 ÷ 31 | = | 163 | เหลือเศษ 0 |
| 5053 ÷ 163 | = | 31 | เหลือเศษ 0 |
| 5053 ÷ 5053 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5053
| 1 x 5053 | = | 5053 |
| 31 x 163 | = | 5053 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5053
1 + 31 + 163 + 5053 = 5248
▶ ตัวประกอบของ 5053 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
31, 163
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5053 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5053 = 31 x 163
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5053 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5053 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5053 มา 1 คู่ เช่น 31 x 163
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5053
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5053
- 5053
- 31
- 163
ดังนั้น 5053 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5053 =
31 x 163
2. การแยกตัวประกอบของ 5053 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5053 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5053 นั้นก็คือ 31, 163 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5053
31)5053163)1631ดังนั้น 5053 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5053 = 31 x 163วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5053
1แยกตัวประกอบของ 5053 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 311 x 16312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 163 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5053 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5053 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5053 นั้นก็คือ 31, 163 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5053
31
)5053
163
)163
1
ดังนั้น 5053 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5053 = 31 x 163
1แยกตัวประกอบของ 5053 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 311 x 1631
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 163 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5053 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5053 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇