ตัวประกอบของ 4767 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4767
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 4767 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 4767 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 4767 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 4767 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 4767 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 7, 21, 227, 681, 1589, 4767
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4767 ÷ 1 | = | 4767 | เหลือเศษ 0 |
4767 ÷ 3 | = | 1589 | เหลือเศษ 0 |
4767 ÷ 7 | = | 681 | เหลือเศษ 0 |
4767 ÷ 21 | = | 227 | เหลือเศษ 0 |
4767 ÷ 227 | = | 21 | เหลือเศษ 0 |
4767 ÷ 681 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
4767 ÷ 1589 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
4767 ÷ 4767 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4767
1 x 4767 | = | 4767 |
3 x 1589 | = | 4767 |
7 x 681 | = | 4767 |
21 x 227 | = | 4767 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4767
1 + 3 + 7 + 21 + 227 + 681 + 1589 + 4767 = 7296
▶ ตัวประกอบของ 4767 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 7, 227
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 4767 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4767 = 3 x 7 x 227
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 4767 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4767 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4767 มา 1 คู่ เช่น 3 x 1589
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4767
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4767 แบบที่หนึ่ง
- 4767
- 21
- 3
- 7
- 227
- 21
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4767 แบบที่สอง
- 4767
- 3
- 1589
- 7
- 227
ดังนั้น 4767 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4767 =
3 x 7 x 227
2. การแยกตัวประกอบของ 4767 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 4767 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4767 นั้นก็คือ 3, 7, 227 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4767
3)47677)1589227)2271ดังนั้น 4767 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้4767 = 3 x 7 x 227วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4767
1แยกตัวประกอบของ 4767 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 71 x 22712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 227 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4767 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 4767 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4767 นั้นก็คือ 3, 7, 227 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4767
3
)4767
7
)1589
227
)227
1
ดังนั้น 4767 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4767 = 3 x 7 x 227
1แยกตัวประกอบของ 4767 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 71 x 2271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 227 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4767 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4767 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇