โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 4686 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4686

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 4686 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 4686 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 11, 22, 33, 66, 71, 142, 213, 426, 781, 1562, 2343, 4686
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4686 ÷ 1=4686เหลือเศษ 0
4686 ÷ 2=2343เหลือเศษ 0
4686 ÷ 3=1562เหลือเศษ 0
4686 ÷ 6=781เหลือเศษ 0
4686 ÷ 11=426เหลือเศษ 0
4686 ÷ 22=213เหลือเศษ 0
4686 ÷ 33=142เหลือเศษ 0
4686 ÷ 66=71เหลือเศษ 0
4686 ÷ 71=66เหลือเศษ 0
4686 ÷ 142=33เหลือเศษ 0
4686 ÷ 213=22เหลือเศษ 0
4686 ÷ 426=11เหลือเศษ 0
4686 ÷ 781=6เหลือเศษ 0
4686 ÷ 1562=3เหลือเศษ 0
4686 ÷ 2343=2เหลือเศษ 0
4686 ÷ 4686=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4686
1 x 4686
2 x 2343
3 x 1562
6 x 781
11 x 426
22 x 213
33 x 142
66 x 71
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4686
1 + 2 + 3 + 6 + 11 + 22 + 33 + 66 + 71 + 142 + 213 + 426 + 781 + 1562 + 2343 + 4686 = 10368
ตัวประกอบของ 4686 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 11, 71
การแยกตัวประกอบคืออะไร

4686 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

4686 = 2 x 3 x 11 x 71
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 4686 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4686 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4686 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2343
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4686
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4686 แบบที่หนึ่ง
  • 4686
    • 66
      • 6
        • 2
        • 3
      • 11
    • 71

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4686 แบบที่สอง
  • 4686
    • 2
    • 2343
      • 3
      • 781
        • 11
        • 71
ดังนั้น 4686 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4686 = 2 x 3 x 11 x 71

2. การแยกตัวประกอบของ 4686 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 4686 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4686 นั้นก็คือ 2, 3, 11, 71 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4686

2
)4686
3
)2343
11
)781
71
)71
1
ดังนั้น 4686 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4686 = 2 x 3 x 11 x 71

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4686

1แยกตัวประกอบของ 4686 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 111 x 711
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 71 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4686 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4686 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇