ตัวประกอบของ 4650 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4650
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 4650 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 4650 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 4650 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 4650 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 4650 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 5, 6, 10, 15, 25, 30, 31, 50, 62, 75, 93, 150, 155, 186, 310, 465, 775, 930, 1550, 2325, 4650
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 4650 ÷ 1 | = | 4650 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 2 | = | 2325 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 3 | = | 1550 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 5 | = | 930 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 6 | = | 775 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 10 | = | 465 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 15 | = | 310 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 25 | = | 186 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 30 | = | 155 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 31 | = | 150 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 50 | = | 93 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 62 | = | 75 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 75 | = | 62 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 93 | = | 50 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 150 | = | 31 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 155 | = | 30 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 186 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 310 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 465 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 775 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 930 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 1550 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 2325 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 4650 ÷ 4650 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4650
| 1 x 4650 | = | 4650 |
| 2 x 2325 | = | 4650 |
| 3 x 1550 | = | 4650 |
| 5 x 930 | = | 4650 |
| 6 x 775 | = | 4650 |
| 10 x 465 | = | 4650 |
| 15 x 310 | = | 4650 |
| 25 x 186 | = | 4650 |
| 30 x 155 | = | 4650 |
| 31 x 150 | = | 4650 |
| 50 x 93 | = | 4650 |
| 62 x 75 | = | 4650 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4650
1 + 2 + 3 + 5 + 6 + 10 + 15 + 25 + 30 + 31 + 50 + 62 + 75 + 93 + 150 + 155 + 186 + 310 + 465 + 775 + 930 + 1550 + 2325 + 4650 = 11904
▶ ตัวประกอบของ 4650 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 5, 31
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 4650 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4650 = 2 x 3 x 5 x 5 x 31
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 4650 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4650 = 2 x 3 x 52 x 31
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 4650 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4650 = 2 x 3 x 52 x 31
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 4650 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4650 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4650 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2325
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4650
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4650 แบบที่หนึ่ง
- 4650
- 62
- 2
- 31
- 75
- 5
- 15
- 3
- 5
- 62
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4650 แบบที่สอง
- 4650
- 2
- 2325
- 3
- 775
- 5
- 155
- 5
- 31
ดังนั้น 4650 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4650 =
2 x 3 x 5 x 5 x 31
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4650 =
2 x 3 x 52 x 31 หรือ 21 x 31 x 52 x 311
2. การแยกตัวประกอบของ 4650 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 4650 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4650 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 31 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4650
2)46503)23255)7755)15531)311ดังนั้น 4650 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้4650 = 2 x 3 x 5 x 5 x 31หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง4650 = 2 x 3 x 52 x 31 หรือ 21 x 31 x 52 x 311วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4650
1แยกตัวประกอบของ 4650 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 52 x 3112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 3 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4650 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 4650 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4650 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 31 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4650
2
)4650
3
)2325
5
)775
5
)155
31
)31
1
ดังนั้น 4650 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4650 = 2 x 3 x 5 x 5 x 31
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4650 = 2 x 3 x 52 x 31 หรือ 21 x 31 x 52 x 311
1แยกตัวประกอบของ 4650 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 52 x 311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 3 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4650 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4650 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇