โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 4640 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4640

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 4640 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 4640 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 8, 10, 16, 20, 29, 32, 40, 58, 80, 116, 145, 160, 232, 290, 464, 580, 928, 1160, 2320, 4640
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4640 ÷ 1=4640เหลือเศษ 0
4640 ÷ 2=2320เหลือเศษ 0
4640 ÷ 4=1160เหลือเศษ 0
4640 ÷ 5=928เหลือเศษ 0
4640 ÷ 8=580เหลือเศษ 0
4640 ÷ 10=464เหลือเศษ 0
4640 ÷ 16=290เหลือเศษ 0
4640 ÷ 20=232เหลือเศษ 0
4640 ÷ 29=160เหลือเศษ 0
4640 ÷ 32=145เหลือเศษ 0
4640 ÷ 40=116เหลือเศษ 0
4640 ÷ 58=80เหลือเศษ 0
4640 ÷ 80=58เหลือเศษ 0
4640 ÷ 116=40เหลือเศษ 0
4640 ÷ 145=32เหลือเศษ 0
4640 ÷ 160=29เหลือเศษ 0
4640 ÷ 232=20เหลือเศษ 0
4640 ÷ 290=16เหลือเศษ 0
4640 ÷ 464=10เหลือเศษ 0
4640 ÷ 580=8เหลือเศษ 0
4640 ÷ 928=5เหลือเศษ 0
4640 ÷ 1160=4เหลือเศษ 0
4640 ÷ 2320=2เหลือเศษ 0
4640 ÷ 4640=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4640
1 x 4640
2 x 2320
4 x 1160
5 x 928
8 x 580
10 x 464
16 x 290
20 x 232
29 x 160
32 x 145
40 x 116
58 x 80
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4640
1 + 2 + 4 + 5 + 8 + 10 + 16 + 20 + 29 + 32 + 40 + 58 + 80 + 116 + 145 + 160 + 232 + 290 + 464 + 580 + 928 + 1160 + 2320 + 4640 = 11340
ตัวประกอบของ 4640 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 29
การแยกตัวประกอบคืออะไร

4640 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

4640 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 5 x 29
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 4640 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4640 = 25 x 5 x 29
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 4640 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4640 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4640 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2320
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4640
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4640 แบบที่หนึ่ง
  • 4640
    • 58
      • 2
      • 29
    • 80
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 10
        • 2
        • 5

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4640 แบบที่สอง
  • 4640
    • 2
    • 2320
      • 2
      • 1160
        • 2
        • 580
          • 2
          • 290
            • 2
            • 145
              • 5
              • 29
ดังนั้น 4640 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4640 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 5 x 29
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4640 = 25 x 5 x 29 หรือ 25 x 51 x 291

2. การแยกตัวประกอบของ 4640 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 4640 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4640 นั้นก็คือ 2, 5, 29 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4640

2
)4640
2
)2320
2
)1160
2
)580
2
)290
5
)145
29
)29
1
ดังนั้น 4640 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4640 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 5 x 29
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4640 = 25 x 5 x 29 หรือ 25 x 51 x 291

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4640

1แยกตัวประกอบของ 4640 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 25 x 51 x 291
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 5 ให้เอา 5 + 1 = 6
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 6 x 2 x 2 = 24
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4640 มีทั้งหมด 24 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4640 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇