ตัวประกอบของ 4625 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4625
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 4625 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 4625 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 4625 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 4625 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 4625 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 25, 37, 125, 185, 925, 4625
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 4625 ÷ 1 | = | 4625 | เหลือเศษ 0 |
| 4625 ÷ 5 | = | 925 | เหลือเศษ 0 |
| 4625 ÷ 25 | = | 185 | เหลือเศษ 0 |
| 4625 ÷ 37 | = | 125 | เหลือเศษ 0 |
| 4625 ÷ 125 | = | 37 | เหลือเศษ 0 |
| 4625 ÷ 185 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
| 4625 ÷ 925 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 4625 ÷ 4625 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4625
| 1 x 4625 | = | 4625 |
| 5 x 925 | = | 4625 |
| 25 x 185 | = | 4625 |
| 37 x 125 | = | 4625 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4625
1 + 5 + 25 + 37 + 125 + 185 + 925 + 4625 = 5928
▶ ตัวประกอบของ 4625 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
5, 37
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 4625 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4625 = 5 x 5 x 5 x 37
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 4625 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4625 = 53 x 37
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 4625 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4625 = 53 x 37
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 4625 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4625 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4625 มา 1 คู่ เช่น 5 x 925
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4625
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4625 แบบที่หนึ่ง
- 4625
- 37
- 125
- 5
- 25
- 5
- 5
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4625 แบบที่สอง
- 4625
- 5
- 925
- 5
- 185
- 5
- 37
ดังนั้น 4625 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4625 =
5 x 5 x 5 x 37
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4625 =
53 x 37 หรือ 53 x 371
2. การแยกตัวประกอบของ 4625 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 4625 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4625 นั้นก็คือ 5, 37 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4625
5)46255)9255)18537)371ดังนั้น 4625 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้4625 = 5 x 5 x 5 x 37หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง4625 = 53 x 37 หรือ 53 x 371วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4625
1แยกตัวประกอบของ 4625 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 53 x 3712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4625 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 4625 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4625 นั้นก็คือ 5, 37 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4625
5
)4625
5
)925
5
)185
37
)37
1
ดังนั้น 4625 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4625 = 5 x 5 x 5 x 37
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4625 = 53 x 37 หรือ 53 x 371
1แยกตัวประกอบของ 4625 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 53 x 371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4625 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4625 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇