โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 4617 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4617

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 4617 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 4617 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 3, 9, 19, 27, 57, 81, 171, 243, 513, 1539, 4617
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4617 ÷ 1=4617เหลือเศษ 0
4617 ÷ 3=1539เหลือเศษ 0
4617 ÷ 9=513เหลือเศษ 0
4617 ÷ 19=243เหลือเศษ 0
4617 ÷ 27=171เหลือเศษ 0
4617 ÷ 57=81เหลือเศษ 0
4617 ÷ 81=57เหลือเศษ 0
4617 ÷ 171=27เหลือเศษ 0
4617 ÷ 243=19เหลือเศษ 0
4617 ÷ 513=9เหลือเศษ 0
4617 ÷ 1539=3เหลือเศษ 0
4617 ÷ 4617=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4617
1 x 4617
3 x 1539
9 x 513
19 x 243
27 x 171
57 x 81
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4617
1 + 3 + 9 + 19 + 27 + 57 + 81 + 171 + 243 + 513 + 1539 + 4617 = 7280
ตัวประกอบของ 4617 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 19
การแยกตัวประกอบคืออะไร

4617 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

4617 = 3 x 3 x 3 x 3 x 3 x 19
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 4617 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4617 = 35 x 19
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 4617 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4617 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4617 มา 1 คู่ เช่น 3 x 1539
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4617
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4617 แบบที่หนึ่ง
  • 4617
    • 57
      • 3
      • 19
    • 81
      • 9
        • 3
        • 3
      • 9
        • 3
        • 3

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4617 แบบที่สอง
  • 4617
    • 3
    • 1539
      • 3
      • 513
        • 3
        • 171
          • 3
          • 57
            • 3
            • 19
ดังนั้น 4617 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4617 = 3 x 3 x 3 x 3 x 3 x 19
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4617 = 35 x 19 หรือ 35 x 191

2. การแยกตัวประกอบของ 4617 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 4617 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4617 นั้นก็คือ 3, 19 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4617

3
)4617
3
)1539
3
)513
3
)171
3
)57
19
)19
1
ดังนั้น 4617 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4617 = 3 x 3 x 3 x 3 x 3 x 19
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4617 = 35 x 19 หรือ 35 x 191

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4617

1แยกตัวประกอบของ 4617 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 35 x 191
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 5 ให้เอา 5 + 1 = 6
  • 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 6 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4617 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4617 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇