ตัวประกอบของ 4342 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4342
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 4342 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 4342 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 4342 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 4342 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 4342 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 13, 26, 167, 334, 2171, 4342
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 4342 ÷ 1 | = | 4342 | เหลือเศษ 0 |
| 4342 ÷ 2 | = | 2171 | เหลือเศษ 0 |
| 4342 ÷ 13 | = | 334 | เหลือเศษ 0 |
| 4342 ÷ 26 | = | 167 | เหลือเศษ 0 |
| 4342 ÷ 167 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
| 4342 ÷ 334 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
| 4342 ÷ 2171 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 4342 ÷ 4342 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4342
| 1 x 4342 | = | 4342 |
| 2 x 2171 | = | 4342 |
| 13 x 334 | = | 4342 |
| 26 x 167 | = | 4342 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4342
1 + 2 + 13 + 26 + 167 + 334 + 2171 + 4342 = 7056
▶ ตัวประกอบของ 4342 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 167
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 4342 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4342 = 2 x 13 x 167
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 4342 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4342 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4342 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2171
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4342
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4342 แบบที่หนึ่ง
- 4342
- 26
- 2
- 13
- 167
- 26
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4342 แบบที่สอง
- 4342
- 2
- 2171
- 13
- 167
ดังนั้น 4342 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4342 =
2 x 13 x 167
2. การแยกตัวประกอบของ 4342 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 4342 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4342 นั้นก็คือ 2, 13, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4342
2)434213)2171167)1671ดังนั้น 4342 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้4342 = 2 x 13 x 167วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4342
1แยกตัวประกอบของ 4342 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 16712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4342 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 4342 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4342 นั้นก็คือ 2, 13, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4342
2
)4342
13
)2171
167
)167
1
ดังนั้น 4342 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4342 = 2 x 13 x 167
1แยกตัวประกอบของ 4342 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 1671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4342 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4342 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇