โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 4300 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4300

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 4300 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 4300 มีทั้งหมด 18 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 10, 20, 25, 43, 50, 86, 100, 172, 215, 430, 860, 1075, 2150, 4300
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4300 ÷ 1=4300เหลือเศษ 0
4300 ÷ 2=2150เหลือเศษ 0
4300 ÷ 4=1075เหลือเศษ 0
4300 ÷ 5=860เหลือเศษ 0
4300 ÷ 10=430เหลือเศษ 0
4300 ÷ 20=215เหลือเศษ 0
4300 ÷ 25=172เหลือเศษ 0
4300 ÷ 43=100เหลือเศษ 0
4300 ÷ 50=86เหลือเศษ 0
4300 ÷ 86=50เหลือเศษ 0
4300 ÷ 100=43เหลือเศษ 0
4300 ÷ 172=25เหลือเศษ 0
4300 ÷ 215=20เหลือเศษ 0
4300 ÷ 430=10เหลือเศษ 0
4300 ÷ 860=5เหลือเศษ 0
4300 ÷ 1075=4เหลือเศษ 0
4300 ÷ 2150=2เหลือเศษ 0
4300 ÷ 4300=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4300
1 x 4300
2 x 2150
4 x 1075
5 x 860
10 x 430
20 x 215
25 x 172
43 x 100
50 x 86
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4300
1 + 2 + 4 + 5 + 10 + 20 + 25 + 43 + 50 + 86 + 100 + 172 + 215 + 430 + 860 + 1075 + 2150 + 4300 = 9548
ตัวประกอบของ 4300 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 43
การแยกตัวประกอบคืออะไร

4300 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

4300 = 2 x 2 x 5 x 5 x 43
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 4300 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4300 = 22 x 52 x 43
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 4300 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4300 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4300 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2150
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4300
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4300 แบบที่หนึ่ง
  • 4300
    • 50
      • 5
      • 10
        • 2
        • 5
    • 86
      • 2
      • 43

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4300 แบบที่สอง
  • 4300
    • 2
    • 2150
      • 2
      • 1075
        • 5
        • 215
          • 5
          • 43
ดังนั้น 4300 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4300 = 2 x 2 x 5 x 5 x 43
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4300 = 22 x 52 x 43 หรือ 22 x 52 x 431

2. การแยกตัวประกอบของ 4300 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 4300 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4300 นั้นก็คือ 2, 5, 43 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4300

2
)4300
2
)2150
5
)1075
5
)215
43
)43
1
ดังนั้น 4300 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4300 = 2 x 2 x 5 x 5 x 43
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4300 = 22 x 52 x 43 หรือ 22 x 52 x 431

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4300

1แยกตัวประกอบของ 4300 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 52 x 431
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 x 2 = 18
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4300 มีทั้งหมด 18 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4300 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇