ตัวประกอบของ 3553 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3553
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 3553 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 3553 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 3553 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 3553 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 3553 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 11, 17, 19, 187, 209, 323, 3553
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
3553 ÷ 1 | = | 3553 | เหลือเศษ 0 |
3553 ÷ 11 | = | 323 | เหลือเศษ 0 |
3553 ÷ 17 | = | 209 | เหลือเศษ 0 |
3553 ÷ 19 | = | 187 | เหลือเศษ 0 |
3553 ÷ 187 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
3553 ÷ 209 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
3553 ÷ 323 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
3553 ÷ 3553 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3553
1 x 3553 | = | 3553 |
11 x 323 | = | 3553 |
17 x 209 | = | 3553 |
19 x 187 | = | 3553 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3553
1 + 11 + 17 + 19 + 187 + 209 + 323 + 3553 = 4320
▶ ตัวประกอบของ 3553 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
11, 17, 19
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 3553 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3553 = 11 x 17 x 19
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 3553 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3553 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3553 มา 1 คู่ เช่น 11 x 323
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3553
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3553 แบบที่หนึ่ง
- 3553
- 19
- 187
- 11
- 17
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3553 แบบที่สอง
- 3553
- 11
- 323
- 17
- 19
ดังนั้น 3553 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3553 =
11 x 17 x 19
2. การแยกตัวประกอบของ 3553 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 3553 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3553 นั้นก็คือ 11, 17, 19 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3553
11)355317)32319)191ดังนั้น 3553 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้3553 = 11 x 17 x 19วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3553
1แยกตัวประกอบของ 3553 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 171 x 1912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3553 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 3553 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3553 นั้นก็คือ 11, 17, 19 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3553
11
)3553
17
)323
19
)19
1
ดังนั้น 3553 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3553 = 11 x 17 x 19
1แยกตัวประกอบของ 3553 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 171 x 191
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3553 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3553 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇