ตัวประกอบของ 3548 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3548
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 3548 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 3548 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 3548 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 3548 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 3548 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 2, 4, 887, 1774, 3548
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
3548 ÷ 1 | = | 3548 | เหลือเศษ 0 |
3548 ÷ 2 | = | 1774 | เหลือเศษ 0 |
3548 ÷ 4 | = | 887 | เหลือเศษ 0 |
3548 ÷ 887 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
3548 ÷ 1774 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
3548 ÷ 3548 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3548
1 x 3548 | = | 3548 |
2 x 1774 | = | 3548 |
4 x 887 | = | 3548 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3548
1 + 2 + 4 + 887 + 1774 + 3548 = 6216
▶ ตัวประกอบของ 3548 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 887
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 3548 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3548 = 2 x 2 x 887
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 3548 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
3548 = 22 x 887
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 3548 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
3548 = 22 x 887
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 3548 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3548 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3548 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1774
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3548
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3548 แบบที่หนึ่ง
- 3548
- 4
- 2
- 2
- 887
- 4
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3548 แบบที่สอง
- 3548
- 2
- 1774
- 2
- 887
ดังนั้น 3548 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3548 =
2 x 2 x 887
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3548 =
22 x 887 หรือ 22 x 8871
2. การแยกตัวประกอบของ 3548 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 3548 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3548 นั้นก็คือ 2, 887 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3548
2)35482)1774887)8871ดังนั้น 3548 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้3548 = 2 x 2 x 887หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง3548 = 22 x 887 หรือ 22 x 8871วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3548
1แยกตัวประกอบของ 3548 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 88712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 887 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3548 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 3548 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3548 นั้นก็คือ 2, 887 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3548
2
)3548
2
)1774
887
)887
1
ดังนั้น 3548 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3548 = 2 x 2 x 887
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3548 = 22 x 887 หรือ 22 x 8871
1แยกตัวประกอบของ 3548 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 8871
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 887 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3548 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3548 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇