โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 3537 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3537

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 3537 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 3537 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 9, 27, 131, 393, 1179, 3537
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
3537 ÷ 1=3537เหลือเศษ 0
3537 ÷ 3=1179เหลือเศษ 0
3537 ÷ 9=393เหลือเศษ 0
3537 ÷ 27=131เหลือเศษ 0
3537 ÷ 131=27เหลือเศษ 0
3537 ÷ 393=9เหลือเศษ 0
3537 ÷ 1179=3เหลือเศษ 0
3537 ÷ 3537=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3537
1 x 3537
3 x 1179
9 x 393
27 x 131
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3537
1 + 3 + 9 + 27 + 131 + 393 + 1179 + 3537 = 5280
ตัวประกอบของ 3537 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 131
การแยกตัวประกอบคืออะไร

3537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

3537 = 3 x 3 x 3 x 131
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 3537 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
3537 = 33 x 131
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 3537 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3537 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3537 มา 1 คู่ เช่น 3 x 1179
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3537
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3537 แบบที่หนึ่ง
  • 3537
    • 27
      • 3
      • 9
        • 3
        • 3
    • 131

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3537 แบบที่สอง
  • 3537
    • 3
    • 1179
      • 3
      • 393
        • 3
        • 131
ดังนั้น 3537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3537 = 3 x 3 x 3 x 131
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3537 = 33 x 131 หรือ 33 x 1311

2. การแยกตัวประกอบของ 3537 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 3537 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3537 นั้นก็คือ 3, 131 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3537

3
)3537
3
)1179
3
)393
131
)131
1
ดังนั้น 3537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3537 = 3 x 3 x 3 x 131
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3537 = 33 x 131 หรือ 33 x 1311

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3537

1แยกตัวประกอบของ 3537 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 33 x 1311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 131 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 = 8
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3537 มีทั้งหมด 8 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3537 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇