โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 35008 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 35008

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 35008 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 35008 มีทั้งหมด 14 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 16, 32, 64, 547, 1094, 2188, 4376, 8752, 17504, 35008
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
35008 ÷ 1=35008เหลือเศษ 0
35008 ÷ 2=17504เหลือเศษ 0
35008 ÷ 4=8752เหลือเศษ 0
35008 ÷ 8=4376เหลือเศษ 0
35008 ÷ 16=2188เหลือเศษ 0
35008 ÷ 32=1094เหลือเศษ 0
35008 ÷ 64=547เหลือเศษ 0
35008 ÷ 547=64เหลือเศษ 0
35008 ÷ 1094=32เหลือเศษ 0
35008 ÷ 2188=16เหลือเศษ 0
35008 ÷ 4376=8เหลือเศษ 0
35008 ÷ 8752=4เหลือเศษ 0
35008 ÷ 17504=2เหลือเศษ 0
35008 ÷ 35008=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 35008
1 x 35008
2 x 17504
4 x 8752
8 x 4376
16 x 2188
32 x 1094
64 x 547
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 35008
1 + 2 + 4 + 8 + 16 + 32 + 64 + 547 + 1094 + 2188 + 4376 + 8752 + 17504 + 35008 = 69596
ตัวประกอบของ 35008 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 547
การแยกตัวประกอบคืออะไร

35008 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

35008 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 547
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 35008 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
35008 = 26 x 547
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 35008 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 35008 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 35008 มา 1 คู่ เช่น 2 x 17504
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 35008
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 35008 แบบที่หนึ่ง
  • 35008
    • 64
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 547

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 35008 แบบที่สอง
  • 35008
    • 2
    • 17504
      • 2
      • 8752
        • 2
        • 4376
          • 2
          • 2188
            • 2
            • 1094
              • 2
              • 547
ดังนั้น 35008 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
35008 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 547
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
35008 = 26 x 547 หรือ 26 x 5471

2. การแยกตัวประกอบของ 35008 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 35008 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 35008 นั้นก็คือ 2, 547 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 35008

2
)35008
2
)17504
2
)8752
2
)4376
2
)2188
2
)1094
547
)547
1
ดังนั้น 35008 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
35008 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 547
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
35008 = 26 x 547 หรือ 26 x 5471

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 35008

1แยกตัวประกอบของ 35008 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 26 x 5471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 6 ให้เอา 6 + 1 = 7
  • 👉 547 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 7 x 2 = 14
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 35008 มีทั้งหมด 14 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 35008 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇