ตัวประกอบของ 35003 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 35003
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 35003 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 35003 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 35003 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 35003 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 35003 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 17, 29, 71, 493, 1207, 2059, 35003
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 35003 ÷ 1 | = | 35003 | เหลือเศษ 0 |
| 35003 ÷ 17 | = | 2059 | เหลือเศษ 0 |
| 35003 ÷ 29 | = | 1207 | เหลือเศษ 0 |
| 35003 ÷ 71 | = | 493 | เหลือเศษ 0 |
| 35003 ÷ 493 | = | 71 | เหลือเศษ 0 |
| 35003 ÷ 1207 | = | 29 | เหลือเศษ 0 |
| 35003 ÷ 2059 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
| 35003 ÷ 35003 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 35003
| 1 x 35003 | = | 35003 |
| 17 x 2059 | = | 35003 |
| 29 x 1207 | = | 35003 |
| 71 x 493 | = | 35003 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 35003
1 + 17 + 29 + 71 + 493 + 1207 + 2059 + 35003 = 38880
▶ ตัวประกอบของ 35003 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
17, 29, 71
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 35003 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
35003 = 17 x 29 x 71
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 35003 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 35003 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 35003 มา 1 คู่ เช่น 17 x 2059
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 35003
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 35003 แบบที่หนึ่ง
- 35003
- 71
- 493
- 17
- 29
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 35003 แบบที่สอง
- 35003
- 17
- 2059
- 29
- 71
ดังนั้น 35003 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
35003 =
17 x 29 x 71
2. การแยกตัวประกอบของ 35003 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 35003 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 35003 นั้นก็คือ 17, 29, 71 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 35003
17)3500329)205971)711ดังนั้น 35003 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้35003 = 17 x 29 x 71วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 35003
1แยกตัวประกอบของ 35003 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 291 x 7112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 71 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 35003 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 35003 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 35003 นั้นก็คือ 17, 29, 71 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 35003
17
)35003
29
)2059
71
)71
1
ดังนั้น 35003 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
35003 = 17 x 29 x 71
1แยกตัวประกอบของ 35003 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 291 x 711
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 71 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 35003 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 35003 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇