โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 3003 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3003

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 3003 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 3003 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 3, 7, 11, 13, 21, 33, 39, 77, 91, 143, 231, 273, 429, 1001, 3003
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
3003 ÷ 1=3003เหลือเศษ 0
3003 ÷ 3=1001เหลือเศษ 0
3003 ÷ 7=429เหลือเศษ 0
3003 ÷ 11=273เหลือเศษ 0
3003 ÷ 13=231เหลือเศษ 0
3003 ÷ 21=143เหลือเศษ 0
3003 ÷ 33=91เหลือเศษ 0
3003 ÷ 39=77เหลือเศษ 0
3003 ÷ 77=39เหลือเศษ 0
3003 ÷ 91=33เหลือเศษ 0
3003 ÷ 143=21เหลือเศษ 0
3003 ÷ 231=13เหลือเศษ 0
3003 ÷ 273=11เหลือเศษ 0
3003 ÷ 429=7เหลือเศษ 0
3003 ÷ 1001=3เหลือเศษ 0
3003 ÷ 3003=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3003
1 x 3003
3 x 1001
7 x 429
11 x 273
13 x 231
21 x 143
33 x 91
39 x 77
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3003
1 + 3 + 7 + 11 + 13 + 21 + 33 + 39 + 77 + 91 + 143 + 231 + 273 + 429 + 1001 + 3003 = 5376
ตัวประกอบของ 3003 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
3, 7, 11, 13
การแยกตัวประกอบคืออะไร

3003 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

3003 = 3 x 7 x 11 x 13
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 3003 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3003 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3003 มา 1 คู่ เช่น 3 x 1001
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3003
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3003 แบบที่หนึ่ง
  • 3003
    • 39
      • 3
      • 13
    • 77
      • 7
      • 11

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3003 แบบที่สอง
  • 3003
    • 3
    • 1001
      • 7
      • 143
        • 11
        • 13
ดังนั้น 3003 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3003 = 3 x 7 x 11 x 13

2. การแยกตัวประกอบของ 3003 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 3003 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3003 นั้นก็คือ 3, 7, 11, 13 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3003

3
)3003
7
)1001
11
)143
13
)13
1
ดังนั้น 3003 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3003 = 3 x 7 x 11 x 13

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3003

1แยกตัวประกอบของ 3003 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 71 x 111 x 131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3003 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3003 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇