ตัวประกอบของ 26406 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26406
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26406 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26406 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26406 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26406 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26406 มีทั้งหมด 20 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 18, 27, 54, 81, 162, 163, 326, 489, 978, 1467, 2934, 4401, 8802, 13203, 26406
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26406 ÷ 1 | = | 26406 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 2 | = | 13203 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 3 | = | 8802 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 6 | = | 4401 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 9 | = | 2934 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 18 | = | 1467 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 27 | = | 978 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 54 | = | 489 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 81 | = | 326 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 162 | = | 163 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 163 | = | 162 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 326 | = | 81 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 489 | = | 54 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 978 | = | 27 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 1467 | = | 18 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 2934 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 4401 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 8802 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 13203 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 26406 ÷ 26406 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26406
| 1 x 26406 | = | 26406 |
| 2 x 13203 | = | 26406 |
| 3 x 8802 | = | 26406 |
| 6 x 4401 | = | 26406 |
| 9 x 2934 | = | 26406 |
| 18 x 1467 | = | 26406 |
| 27 x 978 | = | 26406 |
| 54 x 489 | = | 26406 |
| 81 x 326 | = | 26406 |
| 162 x 163 | = | 26406 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26406
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 18 + 27 + 54 + 81 + 162 + 163 + 326 + 489 + 978 + 1467 + 2934 + 4401 + 8802 + 13203 + 26406 = 59532
▶ ตัวประกอบของ 26406 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 163
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26406 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26406 = 2 x 3 x 3 x 3 x 3 x 163
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26406 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26406 = 2 x 34 x 163
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26406 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26406 = 2 x 34 x 163
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26406 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26406 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26406 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13203
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26406
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26406 แบบที่หนึ่ง
- 26406
- 162
- 9
- 3
- 3
- 18
- 3
- 6
- 2
- 3
- 9
- 163
- 162
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26406 แบบที่สอง
- 26406
- 2
- 13203
- 3
- 4401
- 3
- 1467
- 3
- 489
- 3
- 163
ดังนั้น 26406 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26406 =
2 x 3 x 3 x 3 x 3 x 163
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26406 =
2 x 34 x 163 หรือ 21 x 34 x 1631
2. การแยกตัวประกอบของ 26406 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26406 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26406 นั้นก็คือ 2, 3, 163 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26406
2)264063)132033)44013)14673)489163)1631ดังนั้น 26406 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26406 = 2 x 3 x 3 x 3 x 3 x 163หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง26406 = 2 x 34 x 163 หรือ 21 x 34 x 1631วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26406
1แยกตัวประกอบของ 26406 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 34 x 16312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
- 👉 163 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 5 x 2 = 20✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26406 มีทั้งหมด 20 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26406 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26406 นั้นก็คือ 2, 3, 163 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26406
2
)26406
3
)13203
3
)4401
3
)1467
3
)489
163
)163
1
ดังนั้น 26406 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26406 = 2 x 3 x 3 x 3 x 3 x 163
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26406 = 2 x 34 x 163 หรือ 21 x 34 x 1631
1แยกตัวประกอบของ 26406 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 34 x 1631
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
- 👉 163 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 5 x 2 = 20✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26406 มีทั้งหมด 20 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26406 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇