ตัวประกอบของ 26162 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26162
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26162 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26162 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26162 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26162 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26162 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 103, 127, 206, 254, 13081, 26162
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26162 ÷ 1 | = | 26162 | เหลือเศษ 0 |
| 26162 ÷ 2 | = | 13081 | เหลือเศษ 0 |
| 26162 ÷ 103 | = | 254 | เหลือเศษ 0 |
| 26162 ÷ 127 | = | 206 | เหลือเศษ 0 |
| 26162 ÷ 206 | = | 127 | เหลือเศษ 0 |
| 26162 ÷ 254 | = | 103 | เหลือเศษ 0 |
| 26162 ÷ 13081 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 26162 ÷ 26162 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26162
| 1 x 26162 | = | 26162 |
| 2 x 13081 | = | 26162 |
| 103 x 254 | = | 26162 |
| 127 x 206 | = | 26162 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26162
1 + 2 + 103 + 127 + 206 + 254 + 13081 + 26162 = 39936
▶ ตัวประกอบของ 26162 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 103, 127
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26162 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26162 = 2 x 103 x 127
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26162 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26162 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26162 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13081
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26162
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26162 แบบที่หนึ่ง
- 26162
- 127
- 206
- 2
- 103
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26162 แบบที่สอง
- 26162
- 2
- 13081
- 103
- 127
ดังนั้น 26162 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26162 =
2 x 103 x 127
2. การแยกตัวประกอบของ 26162 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26162 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26162 นั้นก็คือ 2, 103, 127 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26162
2)26162103)13081127)1271ดังนั้น 26162 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26162 = 2 x 103 x 127วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26162
1แยกตัวประกอบของ 26162 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 1031 x 12712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 103 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 127 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26162 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26162 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26162 นั้นก็คือ 2, 103, 127 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26162
2
)26162
103
)13081
127
)127
1
ดังนั้น 26162 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26162 = 2 x 103 x 127
1แยกตัวประกอบของ 26162 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 1031 x 1271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 103 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 127 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26162 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26162 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇