ตัวประกอบของ 26167 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26167
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26167 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26167 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 26167 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26167 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26167 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 137, 191, 26167
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26167 ÷ 1 | = | 26167 | เหลือเศษ 0 |
| 26167 ÷ 137 | = | 191 | เหลือเศษ 0 |
| 26167 ÷ 191 | = | 137 | เหลือเศษ 0 |
| 26167 ÷ 26167 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26167
| 1 x 26167 | = | 26167 |
| 137 x 191 | = | 26167 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26167
1 + 137 + 191 + 26167 = 26496
▶ ตัวประกอบของ 26167 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
137, 191
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26167 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26167 = 137 x 191
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26167 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26167 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26167 มา 1 คู่ เช่น 137 x 191
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26167
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26167
- 26167
- 137
- 191
ดังนั้น 26167 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26167 =
137 x 191
2. การแยกตัวประกอบของ 26167 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26167 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26167 นั้นก็คือ 137, 191 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26167
137)26167191)1911ดังนั้น 26167 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26167 = 137 x 191วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26167
1แยกตัวประกอบของ 26167 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 1371 x 19112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 137 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 191 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26167 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26167 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26167 นั้นก็คือ 137, 191 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26167
137
)26167
191
)191
1
ดังนั้น 26167 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26167 = 137 x 191
1แยกตัวประกอบของ 26167 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 1371 x 1911
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 137 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 191 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26167 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26167 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇