โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 26156 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26156

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 26156 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 26156 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 13, 26, 52, 503, 1006, 2012, 6539, 13078, 26156
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
26156 ÷ 1=26156เหลือเศษ 0
26156 ÷ 2=13078เหลือเศษ 0
26156 ÷ 4=6539เหลือเศษ 0
26156 ÷ 13=2012เหลือเศษ 0
26156 ÷ 26=1006เหลือเศษ 0
26156 ÷ 52=503เหลือเศษ 0
26156 ÷ 503=52เหลือเศษ 0
26156 ÷ 1006=26เหลือเศษ 0
26156 ÷ 2012=13เหลือเศษ 0
26156 ÷ 6539=4เหลือเศษ 0
26156 ÷ 13078=2เหลือเศษ 0
26156 ÷ 26156=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26156
1 x 26156
2 x 13078
4 x 6539
13 x 2012
26 x 1006
52 x 503
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26156
1 + 2 + 4 + 13 + 26 + 52 + 503 + 1006 + 2012 + 6539 + 13078 + 26156 = 49392
ตัวประกอบของ 26156 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 503
การแยกตัวประกอบคืออะไร

26156 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

26156 = 2 x 2 x 13 x 503
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26156 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26156 = 22 x 13 x 503
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 26156 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26156 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26156 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13078
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26156
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26156 แบบที่หนึ่ง
  • 26156
    • 52
      • 4
        • 2
        • 2
      • 13
    • 503

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26156 แบบที่สอง
  • 26156
    • 2
    • 13078
      • 2
      • 6539
        • 13
        • 503
ดังนั้น 26156 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26156 = 2 x 2 x 13 x 503
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26156 = 22 x 13 x 503 หรือ 22 x 131 x 5031

2. การแยกตัวประกอบของ 26156 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 26156 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26156 นั้นก็คือ 2, 13, 503 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26156

2
)26156
2
)13078
13
)6539
503
)503
1
ดังนั้น 26156 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26156 = 2 x 2 x 13 x 503
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26156 = 22 x 13 x 503 หรือ 22 x 131 x 5031

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26156

1แยกตัวประกอบของ 26156 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 131 x 5031
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 503 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26156 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26156 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇