ตัวประกอบของ 26010 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26010
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26010 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26010 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26010 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26010 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26010 มีทั้งหมด 36 ตัวคือ 1, 2, 3, 5, 6, 9, 10, 15, 17, 18, 30, 34, 45, 51, 85, 90, 102, 153, 170, 255, 289, 306, 510, 578, 765, 867, 1445, 1530, 1734, 2601, 2890, 4335, 5202, 8670, 13005, 26010
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26010 ÷ 1 | = | 26010 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 2 | = | 13005 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 3 | = | 8670 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 5 | = | 5202 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 6 | = | 4335 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 9 | = | 2890 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 10 | = | 2601 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 15 | = | 1734 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 17 | = | 1530 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 18 | = | 1445 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 30 | = | 867 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 34 | = | 765 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 45 | = | 578 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 51 | = | 510 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 85 | = | 306 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 90 | = | 289 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 102 | = | 255 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 153 | = | 170 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 170 | = | 153 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 255 | = | 102 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 289 | = | 90 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 306 | = | 85 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 510 | = | 51 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 578 | = | 45 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 765 | = | 34 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 867 | = | 30 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 1445 | = | 18 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 1530 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 1734 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 2601 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 2890 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 4335 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 5202 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 8670 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 13005 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 26010 ÷ 26010 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26010
| 1 x 26010 | = | 26010 |
| 2 x 13005 | = | 26010 |
| 3 x 8670 | = | 26010 |
| 5 x 5202 | = | 26010 |
| 6 x 4335 | = | 26010 |
| 9 x 2890 | = | 26010 |
| 10 x 2601 | = | 26010 |
| 15 x 1734 | = | 26010 |
| 17 x 1530 | = | 26010 |
| 18 x 1445 | = | 26010 |
| 30 x 867 | = | 26010 |
| 34 x 765 | = | 26010 |
| 45 x 578 | = | 26010 |
| 51 x 510 | = | 26010 |
| 85 x 306 | = | 26010 |
| 90 x 289 | = | 26010 |
| 102 x 255 | = | 26010 |
| 153 x 170 | = | 26010 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26010
1 + 2 + 3 + 5 + 6 + 9 + 10 + 15 + 17 + 18 + 30 + 34 + 45 + 51 + 85 + 90 + 102 + 153 + 170 + 255 + 289 + 306 + 510 + 578 + 765 + 867 + 1445 + 1530 + 1734 + 2601 + 2890 + 4335 + 5202 + 8670 + 13005 + 26010 = 71838
▶ ตัวประกอบของ 26010 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 5, 17
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26010 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26010 = 2 x 3 x 3 x 5 x 17 x 17
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26010 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26010 = 2 x 32 x 5 x 172
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26010 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26010 = 2 x 32 x 5 x 172
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26010 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26010 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26010 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13005
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26010
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26010 แบบที่หนึ่ง
- 26010
- 153
- 9
- 3
- 3
- 17
- 9
- 170
- 10
- 2
- 5
- 17
- 10
- 153
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26010 แบบที่สอง
- 26010
- 2
- 13005
- 3
- 4335
- 3
- 1445
- 5
- 289
- 17
- 17
ดังนั้น 26010 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26010 =
2 x 3 x 3 x 5 x 17 x 17
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26010 =
2 x 32 x 5 x 172 หรือ 21 x 32 x 51 x 172
2. การแยกตัวประกอบของ 26010 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26010 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26010 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 17 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26010
2)260103)130053)43355)144517)28917)171ดังนั้น 26010 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26010 = 2 x 3 x 3 x 5 x 17 x 17หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง26010 = 2 x 32 x 5 x 172 หรือ 21 x 32 x 51 x 172วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26010
1แยกตัวประกอบของ 26010 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 51 x 1722ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 3 = 36✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26010 มีทั้งหมด 36 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26010 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26010 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 17 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26010
2
)26010
3
)13005
3
)4335
5
)1445
17
)289
17
)17
1
ดังนั้น 26010 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26010 = 2 x 3 x 3 x 5 x 17 x 17
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26010 = 2 x 32 x 5 x 172 หรือ 21 x 32 x 51 x 172
1แยกตัวประกอบของ 26010 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 51 x 172
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 3 = 36✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26010 มีทั้งหมด 36 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26010 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
