ตัวประกอบของ 26002 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26002
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26002 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26002 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 26002 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26002 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26002 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 2, 13001, 26002
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26002 ÷ 1 | = | 26002 | เหลือเศษ 0 |
| 26002 ÷ 2 | = | 13001 | เหลือเศษ 0 |
| 26002 ÷ 13001 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 26002 ÷ 26002 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26002
| 1 x 26002 | = | 26002 |
| 2 x 13001 | = | 26002 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26002
1 + 2 + 13001 + 26002 = 39006
▶ ตัวประกอบของ 26002 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 13001
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26002 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26002 = 2 x 13001
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26002 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26002 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26002 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13001
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26002
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26002
- 26002
- 2
- 13001
ดังนั้น 26002 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26002 =
2 x 13001
2. การแยกตัวประกอบของ 26002 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26002 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26002 นั้นก็คือ 2, 13001 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26002
2)2600213001)130011ดังนั้น 26002 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26002 = 2 x 13001วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26002
1แยกตัวประกอบของ 26002 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 1300112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13001 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26002 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26002 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26002 นั้นก็คือ 2, 13001 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26002
2
)26002
13001
)13001
1
ดังนั้น 26002 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26002 = 2 x 13001
1แยกตัวประกอบของ 26002 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 130011
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13001 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26002 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26002 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
