ตัวประกอบของ 25734 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25734
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25734 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25734 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25734 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25734 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25734 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 4289, 8578, 12867, 25734
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25734 ÷ 1 | = | 25734 | เหลือเศษ 0 |
25734 ÷ 2 | = | 12867 | เหลือเศษ 0 |
25734 ÷ 3 | = | 8578 | เหลือเศษ 0 |
25734 ÷ 6 | = | 4289 | เหลือเศษ 0 |
25734 ÷ 4289 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
25734 ÷ 8578 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
25734 ÷ 12867 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
25734 ÷ 25734 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25734
1 x 25734 | = | 25734 |
2 x 12867 | = | 25734 |
3 x 8578 | = | 25734 |
6 x 4289 | = | 25734 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25734
1 + 2 + 3 + 6 + 4289 + 8578 + 12867 + 25734 = 51480
▶ ตัวประกอบของ 25734 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 4289
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25734 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25734 = 2 x 3 x 4289
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25734 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25734 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25734 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12867
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25734
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25734 แบบที่หนึ่ง
- 25734
- 6
- 2
- 3
- 4289
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25734 แบบที่สอง
- 25734
- 2
- 12867
- 3
- 4289
ดังนั้น 25734 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25734 =
2 x 3 x 4289
2. การแยกตัวประกอบของ 25734 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25734 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25734 นั้นก็คือ 2, 3, 4289 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25734
2)257343)128674289)42891ดังนั้น 25734 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25734 = 2 x 3 x 4289วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25734
1แยกตัวประกอบของ 25734 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 428912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 4289 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25734 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25734 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25734 นั้นก็คือ 2, 3, 4289 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25734
2
)25734
3
)12867
4289
)4289
1
ดังนั้น 25734 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25734 = 2 x 3 x 4289
1แยกตัวประกอบของ 25734 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 42891
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 4289 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25734 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25734 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇