โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 25532 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25532

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 25532 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 25532 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 13, 26, 52, 491, 982, 1964, 6383, 12766, 25532
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25532 ÷ 1=25532เหลือเศษ 0
25532 ÷ 2=12766เหลือเศษ 0
25532 ÷ 4=6383เหลือเศษ 0
25532 ÷ 13=1964เหลือเศษ 0
25532 ÷ 26=982เหลือเศษ 0
25532 ÷ 52=491เหลือเศษ 0
25532 ÷ 491=52เหลือเศษ 0
25532 ÷ 982=26เหลือเศษ 0
25532 ÷ 1964=13เหลือเศษ 0
25532 ÷ 6383=4เหลือเศษ 0
25532 ÷ 12766=2เหลือเศษ 0
25532 ÷ 25532=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25532
1 x 25532
2 x 12766
4 x 6383
13 x 1964
26 x 982
52 x 491
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25532
1 + 2 + 4 + 13 + 26 + 52 + 491 + 982 + 1964 + 6383 + 12766 + 25532 = 48216
ตัวประกอบของ 25532 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 491
การแยกตัวประกอบคืออะไร

25532 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

25532 = 2 x 2 x 13 x 491
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25532 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25532 = 22 x 13 x 491
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 25532 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25532 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25532 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12766
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25532
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25532 แบบที่หนึ่ง
  • 25532
    • 52
      • 4
        • 2
        • 2
      • 13
    • 491

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25532 แบบที่สอง
  • 25532
    • 2
    • 12766
      • 2
      • 6383
        • 13
        • 491
ดังนั้น 25532 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25532 = 2 x 2 x 13 x 491
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25532 = 22 x 13 x 491 หรือ 22 x 131 x 4911

2. การแยกตัวประกอบของ 25532 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 25532 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25532 นั้นก็คือ 2, 13, 491 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25532

2
)25532
2
)12766
13
)6383
491
)491
1
ดังนั้น 25532 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25532 = 2 x 2 x 13 x 491
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25532 = 22 x 13 x 491 หรือ 22 x 131 x 4911

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25532

1แยกตัวประกอบของ 25532 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 131 x 4911
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 491 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25532 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25532 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇