ตัวประกอบของ 25474 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25474
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25474 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25474 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25474 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25474 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25474 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 47, 94, 271, 542, 12737, 25474
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25474 ÷ 1 | = | 25474 | เหลือเศษ 0 |
25474 ÷ 2 | = | 12737 | เหลือเศษ 0 |
25474 ÷ 47 | = | 542 | เหลือเศษ 0 |
25474 ÷ 94 | = | 271 | เหลือเศษ 0 |
25474 ÷ 271 | = | 94 | เหลือเศษ 0 |
25474 ÷ 542 | = | 47 | เหลือเศษ 0 |
25474 ÷ 12737 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
25474 ÷ 25474 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25474
1 x 25474 | = | 25474 |
2 x 12737 | = | 25474 |
47 x 542 | = | 25474 |
94 x 271 | = | 25474 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25474
1 + 2 + 47 + 94 + 271 + 542 + 12737 + 25474 = 39168
▶ ตัวประกอบของ 25474 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 47, 271
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25474 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25474 = 2 x 47 x 271
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25474 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25474 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25474 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12737
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25474
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25474 แบบที่หนึ่ง
- 25474
- 94
- 2
- 47
- 271
- 94
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25474 แบบที่สอง
- 25474
- 2
- 12737
- 47
- 271
ดังนั้น 25474 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25474 =
2 x 47 x 271
2. การแยกตัวประกอบของ 25474 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25474 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25474 นั้นก็คือ 2, 47, 271 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25474
2)2547447)12737271)2711ดังนั้น 25474 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25474 = 2 x 47 x 271วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25474
1แยกตัวประกอบของ 25474 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 471 x 27112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 271 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25474 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25474 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25474 นั้นก็คือ 2, 47, 271 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25474
2
)25474
47
)12737
271
)271
1
ดังนั้น 25474 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25474 = 2 x 47 x 271
1แยกตัวประกอบของ 25474 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 471 x 2711
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 271 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25474 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25474 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇