โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 25466 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25466

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 25466 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 25466 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 17, 34, 107, 119, 214, 238, 749, 1498, 1819, 3638, 12733, 25466
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25466 ÷ 1=25466เหลือเศษ 0
25466 ÷ 2=12733เหลือเศษ 0
25466 ÷ 7=3638เหลือเศษ 0
25466 ÷ 14=1819เหลือเศษ 0
25466 ÷ 17=1498เหลือเศษ 0
25466 ÷ 34=749เหลือเศษ 0
25466 ÷ 107=238เหลือเศษ 0
25466 ÷ 119=214เหลือเศษ 0
25466 ÷ 214=119เหลือเศษ 0
25466 ÷ 238=107เหลือเศษ 0
25466 ÷ 749=34เหลือเศษ 0
25466 ÷ 1498=17เหลือเศษ 0
25466 ÷ 1819=14เหลือเศษ 0
25466 ÷ 3638=7เหลือเศษ 0
25466 ÷ 12733=2เหลือเศษ 0
25466 ÷ 25466=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25466
1 x 25466
2 x 12733
7 x 3638
14 x 1819
17 x 1498
34 x 749
107 x 238
119 x 214
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25466
1 + 2 + 7 + 14 + 17 + 34 + 107 + 119 + 214 + 238 + 749 + 1498 + 1819 + 3638 + 12733 + 25466 = 46656
ตัวประกอบของ 25466 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 7, 17, 107
การแยกตัวประกอบคืออะไร

25466 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

25466 = 2 x 7 x 17 x 107
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 25466 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25466 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25466 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12733
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25466
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25466 แบบที่หนึ่ง
  • 25466
    • 119
      • 7
      • 17
    • 214
      • 2
      • 107

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25466 แบบที่สอง
  • 25466
    • 2
    • 12733
      • 7
      • 1819
        • 17
        • 107
ดังนั้น 25466 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25466 = 2 x 7 x 17 x 107

2. การแยกตัวประกอบของ 25466 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 25466 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25466 นั้นก็คือ 2, 7, 17, 107 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25466

2
)25466
7
)12733
17
)1819
107
)107
1
ดังนั้น 25466 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25466 = 2 x 7 x 17 x 107

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25466

1แยกตัวประกอบของ 25466 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 171 x 1071
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 107 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25466 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25466 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇