ตัวประกอบของ 25484 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25484
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25484 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25484 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25484 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25484 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25484 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 23, 46, 92, 277, 554, 1108, 6371, 12742, 25484
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25484 ÷ 1 | = | 25484 | เหลือเศษ 0 |
25484 ÷ 2 | = | 12742 | เหลือเศษ 0 |
25484 ÷ 4 | = | 6371 | เหลือเศษ 0 |
25484 ÷ 23 | = | 1108 | เหลือเศษ 0 |
25484 ÷ 46 | = | 554 | เหลือเศษ 0 |
25484 ÷ 92 | = | 277 | เหลือเศษ 0 |
25484 ÷ 277 | = | 92 | เหลือเศษ 0 |
25484 ÷ 554 | = | 46 | เหลือเศษ 0 |
25484 ÷ 1108 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
25484 ÷ 6371 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
25484 ÷ 12742 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
25484 ÷ 25484 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25484
1 x 25484 | = | 25484 |
2 x 12742 | = | 25484 |
4 x 6371 | = | 25484 |
23 x 1108 | = | 25484 |
46 x 554 | = | 25484 |
92 x 277 | = | 25484 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25484
1 + 2 + 4 + 23 + 46 + 92 + 277 + 554 + 1108 + 6371 + 12742 + 25484 = 46704
▶ ตัวประกอบของ 25484 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 23, 277
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25484 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25484 = 2 x 2 x 23 x 277
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25484 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25484 = 22 x 23 x 277
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25484 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25484 = 22 x 23 x 277
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25484 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25484 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25484 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12742
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25484
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25484 แบบที่หนึ่ง
- 25484
- 92
- 4
- 2
- 2
- 23
- 4
- 277
- 92
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25484 แบบที่สอง
- 25484
- 2
- 12742
- 2
- 6371
- 23
- 277
ดังนั้น 25484 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25484 =
2 x 2 x 23 x 277
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25484 =
22 x 23 x 277 หรือ 22 x 231 x 2771
2. การแยกตัวประกอบของ 25484 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25484 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25484 นั้นก็คือ 2, 23, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25484
2)254842)1274223)6371277)2771ดังนั้น 25484 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25484 = 2 x 2 x 23 x 277หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง25484 = 22 x 23 x 277 หรือ 22 x 231 x 2771วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25484
1แยกตัวประกอบของ 25484 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 231 x 27712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25484 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25484 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25484 นั้นก็คือ 2, 23, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25484
2
)25484
2
)12742
23
)6371
277
)277
1
ดังนั้น 25484 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25484 = 2 x 2 x 23 x 277
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25484 = 22 x 23 x 277 หรือ 22 x 231 x 2771
1แยกตัวประกอบของ 25484 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 231 x 2771
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25484 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25484 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇