โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 25362 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25362

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 25362 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 25362 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 18, 1409, 2818, 4227, 8454, 12681, 25362
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25362 ÷ 1=25362เหลือเศษ 0
25362 ÷ 2=12681เหลือเศษ 0
25362 ÷ 3=8454เหลือเศษ 0
25362 ÷ 6=4227เหลือเศษ 0
25362 ÷ 9=2818เหลือเศษ 0
25362 ÷ 18=1409เหลือเศษ 0
25362 ÷ 1409=18เหลือเศษ 0
25362 ÷ 2818=9เหลือเศษ 0
25362 ÷ 4227=6เหลือเศษ 0
25362 ÷ 8454=3เหลือเศษ 0
25362 ÷ 12681=2เหลือเศษ 0
25362 ÷ 25362=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25362
1 x 25362
2 x 12681
3 x 8454
6 x 4227
9 x 2818
18 x 1409
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25362
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 18 + 1409 + 2818 + 4227 + 8454 + 12681 + 25362 = 54990
ตัวประกอบของ 25362 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 1409
การแยกตัวประกอบคืออะไร

25362 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

25362 = 2 x 3 x 3 x 1409
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25362 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25362 = 2 x 32 x 1409
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 25362 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25362 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25362 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12681
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25362
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25362 แบบที่หนึ่ง
  • 25362
    • 18
      • 3
      • 6
        • 2
        • 3
    • 1409

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25362 แบบที่สอง
  • 25362
    • 2
    • 12681
      • 3
      • 4227
        • 3
        • 1409
ดังนั้น 25362 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25362 = 2 x 3 x 3 x 1409
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25362 = 2 x 32 x 1409 หรือ 21 x 32 x 14091

2. การแยกตัวประกอบของ 25362 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 25362 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25362 นั้นก็คือ 2, 3, 1409 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25362

2
)25362
3
)12681
3
)4227
1409
)1409
1
ดังนั้น 25362 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25362 = 2 x 3 x 3 x 1409
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25362 = 2 x 32 x 1409 หรือ 21 x 32 x 14091

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25362

1แยกตัวประกอบของ 25362 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 14091
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 1409 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25362 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25362 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇